ไทรอยด์เป็นพิษ คืออะไร? ทำความรู้จักโรคและวิธีสังเกตอาการด้วยตัวเอง!
ไทรอยด์เป็นพิษ (Hyperthyroidism, Overactive Thyroid) คือ ภาวะที่ต่อมไทรอยด์ผลิตฮอร์โมนมากเกินความจำเป็น ส่งผลให้ต่อมไทรอยด์โต ระบบเผาผลาญมีปัญหา ฯลฯ
ปัจจุบันการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 กลายเป็นเรื่องใกล้ตัวมากขึ้น นอกจากจะต้องรับมือในการป้องกันตัวเองจากเชื้อไวรัสสำหรับผู้ที่ยังไม่ติดเชื้อแล้ว ผู้ที่ติดเชื้อเองก็ต้องรับมือกับอาการป่วยในระหว่างติดเชื้อเช่นเดียว เพราะนอกจากอาการป่วยจากการติดเชื้อหลากหลายอาการไม่ว่าจะเป็นไอแห้ง จมูกไม่ได้กลิ่น ลิ้นไม่รู้รสแล้ว บางท่านอาจกำลังเผชิญกับอาการโควิดลงปอด ซึ่งอาการโควิดลงปอดนี้เป็นอาการที่หลายคนค่อนข้างกังวลกันส่วนใหญ่
วันนี้ทาง Samitivej Chinatown จึงขอนำสาระทางการแพทย์เกี่ยวกับวิธีรับมือกับอาการโควิดลงปอดมาแบ่งปัน ทั้งผู้ที่ติดเชื้อและยังไม่ติดเชื้อให้สามารถรับมือกับอาการโควิดลงปอดได้อย่างถูกต้อง และยังมีข้อสงสัยเกี่ยวกับโควิดลงปอดอื่นๆ ที่พร้อมตอบในบทความนี้
สารบัญบทความ
โควิดลงปอด เป็นอาการที่สามารถเกิดขึ้นในผู้ป่วยที่ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 โดยเมื่อเชื้อโควิดลงปอด ทำการแพร่กระจายเชื้อไวรัสภายในอวัยวะทำให้เกิดการอักเสบที่ถุงลมเล็กซึ่งมีหน้าที่ในการแลกเปลี่ยนออกซิเจนและคาร์บอนไดออกไซด์ พร้อมทั้งช่วยลำเลียงออกซิเจนให้กับร่างกายได้รับในปริมาณที่เพียงพอไม่สามารถทำหน้าที่ได้อย่างเต็มที่ เพราะเชื้อไวรัสทำให้ถุงลมเล็กๆ ภายในปอดเกิดของเหลวและหนองจำนวนมาก
โควิดลงปอด เกิดจากสาเหตุที่เชื้อไวรัสโควิด-19 มีการติดเชื้อเข้าสู่ร่างกายของมนุษย์ ในบางรายที่เกิดอาการโควิดลงปอดนั้นเชื้อไวรัสได้มีการแพร่สู่อวัยวะอย่างปอดและรบกวนกลไกการทำงานในการแลกเปลี่ยนออกซิเจนภายในร่างกาย
ซึ่งส่วนใหญ่ผู้ป่วยโควิดที่เกิดอาการโควิดลงปอดจะเป็นผู้ป่วยที่ได้รับปริมาณเชื้อไวรัสจำนวนมาก ทำให้เชื้อโควิดแพร่กระจายไปยังบริเวณปอด ยิ่งถ้าหากเป็นผู้ที่มีโรคประจำตัวบางชนิด เช่น โรคเกี่ยวกับทางเดินหายใจ หรือโรคที่ทำให้ร่างกายมีภูมิคุ้มกันต่ำ ก็จะยิ่งเสี่ยงเกิดภาวะโควิดลงปอด
เมื่อเกิดการติดเชื้อโควิดหลายคนมีทั้งที่แสดงอาการป่วยต่างๆ ทั้งเป็นไข้ ไอ เมื่อยตัว หรือแม้กระทั่งบางคนที่ไม่มีอาการใดๆ แต่ตรวจพบเชื้อ ซึ่งหลายท่านเกิดความกังวลใจสำหรับโควิดลงปอดว่าจะสังเกตอย่างไรได้บ้างโดยสำหรับอาการโควิดลงปอดนั้นจะสามารถสังเกตอาการต่างๆ ที่เกิดขึ้นกับร่างกายของเราได้ ดังนี้
อย่างไรก็ตามนอกจากอาการเบื้องต้นที่สามารถบ่งบอกถึงอาการโควิดลงปอดได้แล้วนั้น ยังมีตัวอย่างอาการอื่นๆ ของโควิดลงปอดที่อยากให้สังเกตตัวเอง เพราะหากเกิดขึ้นควรพบแพทย์ ซึ่งมีอาการดังต่อไปนี้
เป็นเรื่องที่ปฏิเสธไม่ได้ว่าไม่มีใครอยากให้โควิดลงปอด และหลายคนกังวลว่าโควิดลงปอด อันตรายไหม ? ต้องบอกเลยว่าค่อนข้างอันตราย เพราะเมื่อเชื้อโควิดลงปอดเราแล้ว ไวรัสจะไปทำลายเซลล์ในปอด ส่งผลให้เนื้อเยื่อปอดก็ถูกทำลายไปด้วย เกิดภาวะแทรกซ้อนต่างๆ มีพังผืดที่ปอด มีอาการปอดบวม
ถ้าหากติดเชื้อแล้วโควิดลงปอด จำเป็นต้องรีบเข้ารับการรักษาอย่างเร่งด่วน เพื่อที่จะยับยั้งไม่ให้เชื้อโควิดลงปอด 2 ข้าง ยิ่งรักษาเร็วยิ่งเพิ่มโอกาสการรอดชีวิตได้มากขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งกลุ่ม 608 คือผู้ที่อายุมากกว่า 60 ปี ผู้ป่วย 7 โรคเรื้อรัง และหญิงตั้งครรภ์ ที่ไม่ได้รับวัคซีนเข็มกระตุ้นมีความเสี่ยงที่จะเสียชีวิตจากโควิดมากที่สุด
แม้ว่าอาการโควิดลงปอดจะเป็นอาการที่สามารถเกิดขึ้นได้กับผู้ป่วยโควิด แต่จะมีคนบางกลุ่มที่จะมีแนวโน้มความเสี่ยงในการเกิดอาการโควิดลงปอดมากกว่าคนอื่น ซึ่งได้แก่
สำหรับการวินิจฉัยว่าโควิดลงปอดหรือไม่แพทย์จะมีการซักถามเกี่ยวกับอาการโควิดที่เกิดขึ้นว่าในระหว่างที่เป็นคนไข้มีอาการเป็นอย่างไรบ้าง
โดยเฉพาะอาการที่เกี่ยวข้องกับการหายใจ ซึ่งจะมีการตรวจสอบเพิ่มเติมทั้งการฟังเสียงของปอด วัดความดันโลหิต ตรวจเลือด เก็บตัวอย่างเชื้อไวรัสทางโพรงจมูก ดูค่าระดับออกซิเจนในเลือดว่ามีค่าเท่าไหร่ ซึ่งค่าออกซิเจนในเลือดโดยปกติไม่ควรต่ำกว่า 94
นอกจากนั้นยังมีการเอกซเรย์ปอดหรือทำการ CT Scan บริเวณทรวงอก เพื่อดูภายในปอดทั้ง 2 ข้างว่าเกิดความเสียหายมากน้อยเพียงใดจากอาการโควิดลงปอด
สำหรับท่านที่สงสัยว่าตัวเองมีอาการโควิดลงปอดหรือมั่นใจว่าตัวเองนั้นโควิดลงปอดแน่ๆ ขอให้หมั่นสังเกตอาการของตนเองว่าเป็นอย่างไรบ้าง หากเริ่มหายใจลำบาก หายใจไม่ออก นั่งเฉยๆ ไม่ได้ทำกิจกรรมอะไรแล้วรู้สึกเหนื่อย หัวใจเต้นเร็ว ขอให้รีบพบแพทย์โดยทันที
ส่วนท่านใดที่มีคนใกล้ชิดที่ติดเชื้อโควิดและมีอาการโควิดลงปอด อยากให้คอยซักถาม หมั่นติดต่อคนใกล้ชิดอย่างสม่ำเสมอถึงอาการโควิดลงปอดว่าเป็นอย่างไรบ้าง หากคนใกล้ชิดมีอาการที่น่าเป็นห่วงจะได้พาไปพบแพทย์ได้ทันที
ในส่วนแนวทางการรักษาโควิดลงปอดนั้นหากได้รับการวินิจฉัยว่ามีอาการโควิดลงปอดแล้ว แพทย์จะดำเนินการรักษาโดยการจ่ายยารักษาที่เกี่ยวข้องกับอาการ เช่น ยาต้านไวรัส ยาต้านการอักเสบ ยาอื่นๆ ตามอาการ เป็นต้น
และยังมีการรักษาด้วยวิธีอื่นๆ เพิ่มเติมตามอาการที่แพทย์เห็นสมควร เช่น การให้ออกซิเจนเสริมในกรณีที่คนไข้มีออกซิเจนไม่เพียงพอ เพื่อเป็นการรักษาระดับออกซิเจนในเลือด การใส่เครื่องช่วยหายใจเป็นเครื่องที่ช่วยให้ผู้ป่วยที่หายใจเองลำบาก หายใจไม่สะดวก ไม่สามารถหายใจเองได้ มีการหายใจที่ดีขึ้น เป็นต้น
เชื่อว่าหลายคนคงไม่อยากให้โควิดลงปอดตัวเอง แต่ถ้าเกิดขึ้นกับตัวเองแล้วสิ่งสำคัญที่สุดคือการดูแลใส่ใจตนเอง จะต้องเรียนรู้วิธีการรับมือกับโรค รวมถึงวิธีการดูแลตัวเอง เพื่อให้ร่างกายแข็งแรงและหายป่วยจากโควิด
ผู้ป่วยที่เชื้อโควิดลงปอดควรนอนในท่านอนคว่ำหรือนอนตะแคงกึ่งคว่ำ เพื่อให้ปอดไม่ถูกกดทับและทำงานได้ดียิ่งขึ้น ส่วนผู้ที่ตั้งครรภ์ควรนอนตะแคงไปทางซ้าย เพื่อไม่ให้มดลูกไปกดทับหลอดเลือดดำใหญ่ ทำให้เลือดสามารถไหลเวียนได้ดีขึ้น
การดื่มน้ำและทานอาหารก็เป็นสิ่งสำคัญเช่นกัน ลำดับแรกควรดื่มน้ำสะอาดให้เพียงพอวันละ 2-2.5 ลิตร ส่วนการรับประทานอาหาร แม้ว่าเมื่อเกิดอาการป่วยอาจทำให้ไม่อยากอาหาร แต่ก็ควรทานอาหารให้เพียงพอ และทานอาหารที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย เพื่อช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกันโรค
เมื่อเชื้อโควิดลงปอดอาจทำให้ผู้ป่วยมีอาการเหนื่อยหอบง่าย ถ้าหากผู้ป่วยรู้ตัวว่ามีอาการเหนื่อยมาก ควรระมัดระวังในการเข้าห้องน้ำ หรือควรมีผู้ช่วยพาไปเข้าห้องน้ำ เพื่อดูแลความปลอดภัยหากเกิดเหตุฉุกเฉินขึ้น
หลังจากที่รู้ว่าเชื้อโควิดลงปอด ควรติดต่อญาติและคนใกล้ชิดอยู่เสมอ ต้องคอยอัปเดตอาการของตัวเองบ่อยๆ เพราะถ้าหากอาการแย่ลงหรือเกิดเหตุฉุกเฉินขึ้น ก็จะได้รับการช่วยเหลือได้ทันเวลา
การดูแลตัวเองหลังหายจากอาการโควิดลงปอด เพื่อฟื้นฟูปอดให้กลับมาแข็งแรงอีกครั้ง มีระยะเวลาที่ต่างกันตามความรุนแรงของอาการในแต่ละคน ปกติแล้วเมื่อผ่านไป 3-4 สัปดาห์ก็จะเริ่มเห็นผลลัพธ์ที่ดีขึ้น โดยจะต้องฝึกฝนการหายใจ ออกกำลังกายเบาๆ เพื่อที่จะบริหารปอดให้เกิดความยืดหยุ่นมากขึ้น ช่วยลดการเกิดพังผืดในปอดลงได้ ควรพักผ่อนให้เพียงพอ และกินอาหารที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย
นอกจากนี้หลังหายจากอาการโควิดลงปอดต้องหลีกเลี่ยงเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ การสูบบุหรี่ ไม่กินอาหารปิ้งย่าง อาหารรสจัด ของทอด ของมัน ของดอง และงดการพบเจอผู้คนจำนวนมากในที่สาธารณะ
เมื่อเชื้อโควิดลงปอดถ้าหากรักษาหายแล้ว อาจจะยังส่งผลอยู่ในรูปแบบของลองโควิด (Long COVID) ถึงแม้ว่าจะไม่มีเชื้ออยู่ในตัวแล้ว ผลการตรวจเป็นบวกหรือขึ้น 2 ขีดแล้ว แต่ผลของโควิดลงปอดก็ยังคงอยู่ ทำให้เกิดการอักเสบที่ปอด เกิดพังผืดขึ้นในปอด ส่งผลให้คุณภาพการทำงานของปอดที่ใช้แลกเปลี่ยนออกซิเจนลดลง เนื่องจากเนื้อเยื่อปอดบางส่วนถูกทำลายไป
ผู้ที่มีอาการลองโควิดจะเหนื่อยหอบง่ายกว่าคนปกติ ออกแรงเพียงเล็กน้อยก็จะเหนื่อยล้า ต้องหยุดพักหายใจบ่อยๆ อีกทั้งยังรู้สึกอ่อนเพลีย ไม่สดชื่นเหมือนก่อนที่ติดโควิด แต่อาการลองโควิดจะดีขึ้นได้ ถ้ามีฟื้นฟูและดูแลตัวเองที่ถูกต้อง
โควิดเป็นโรคทางระบบทางเดินหายใจที่ติดเชื้อได้ค่อนข้างง่าย เชื้อโรคยังอยู่ได้ทั้งในอากาศและพื้นผิวสัมผัส จึงต้องมีวิธีการป้องกันตัวเองที่เข้มงวดมากกว่าโรคอื่นๆ ทั้งผู้ที่ยังไม่เคยติดเชื้อและผู้ที่เคยติดเชื้อแล้ว เพื่อระวังการติดโควิดรอบ 2 อีกครั้ง เพราะหากติดเชื้อแล้วแต่ละคนมีอาการที่ไม่เหมือนกัน และบางคนอาจมีอาการโควิดลงปอดได้
ซึ่งสำหรับใครที่ต้องการป้องกันตนเองจากอาการโควิดลงปอด แนวทางป้องกันมีดังนี้
อาการโควิดแม้จะหายดีแล้วแต่อวัยวะหลายๆ อย่างในร่างกายอาจทำหน้าที่ได้ไม่เท่าเดิมก่อนติดเชื้อ โดยเฉพาะอย่างยิ่งคนที่ติดเชื้อและมีอาการโควิดลงปอดร่วมด้วยนั้น ปอดของคุณอาจจะทำงานได้ไม่เต็มที่เหมือนในอดีต ด้วยเพราะเหตุนี้เองจึงทำให้การตรวจสุขภาพหลังหายจากการติดเชื้อแล้วเป็นสิ่งสำคัญ
ทางโรงพยาบาล Samitivej Chinatown ขอแนะนำโปรแกรมตรวจสุขภาพหลังเป็นโควิด ที่จะช่วยเช็คสุขภาพปอดไปจนถึงสุขภาพของส่วนอื่นๆ ในร่างกาย เพื่อให้สามารถรับการฟื้นฟูร่างกายอย่างถูกวิธี และยังสามารถทราบได้ถึงอาการลองโควิดที่จะตามมา
โควิดลงปอดเป็นอาการที่หลายคนกังวลกันเป็นอย่างมาก เพราะด้วยอาการที่ต้องเผชิญทั้งเหนื่อยง่ายมากขึ้น หายใจลำบาก เป็นต้น ซึ่งนอกจากจะมีกลุ่มเสี่ยงที่สามารถเกิดอาการโควิดลงปอดได้ง่ายกว่าผู้อื่นแล้ว ยังมีกลุ่มเสี่ยงที่หากเกิดอาการลงปอดขึ้นมาอย่างกลุ่ม 608 ก็ยิ่งเพิ่มความเสี่ยงในการเสียชีวิตได้เช่นกัน
ฉะนั้นสามารถป้องกันอาการโควิดลงปอดได้ด้วยการใส่หน้ากากอนามัย หลีกเลี่ยงพื้นที่แออัด ล้างมือให้สะอาด และเพิ่มภูมิคุ้มกันด้วยวัคซีน
สำหรับท่านใดที่มีปัญหาเกี่ยวกับโรคโควิด-19 การดูแลตัวเองหลังติดโควิด รวมไปถึงปัญหาสุขภาพอื่นๆ หรือมีความต้องการอย่างการตรวจสุขภาพประจำปี ไม่มั่นใจว่าจะตรวจร่างกาย ตรวจสุขภาพที่ไหน หากมีความกังวลใจเกี่ยวกับสุขภาพสามารถติดต่อสอบถามกับทีมแพทย์เฉพาะทางของโรงพยาบาลสมิติเวช ไชน่าทาวน์ มากด้วยประสบการณ์และพร้อมที่จะดูแลสุขภาพของคุณ ผ่านช่องทางการติดต่อต่างๆ ได้ที่
Line @samitivejchinatown
เบอร์ 02-118-7893 (ตลอด 24 ชั่วโมง)
References
Cleveland Clinic medical professional. (October 8, 2022). COVID Pneumonia. https://my.clevelandclinic.org/health/diseases/24002-covid-pneumonia
Korin Miller. (October 14, 2022). COVID-19 Pneumonia—the Lung Infection Caused by Getting COVID-19. https://www.health.com/condition/pneumonia/covid-19-pneumonia
Nicole Andonian. (December 7, 2022). Why Some People With COVID Get Pneumonia — And How to Recognize the Signs. https://www.goodrx.com/conditions/covid-19/can-covid-cause-pneumonia
Susan Bernstein. (December 31, 2022). Coronavirus and Pneumonia. https://www.webmd.com/covid/covid-and-pneumonia
เราใช้คุกกี้เพื่อเพิ่มประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ แสดงเนื้อหาให้ตรงกับความสนใจ รวมถึงเพื่อวิเคราะห์การเข้าใช้งานเว็บไซต์และทำความเข้าใจว่าผู้ใช้งานมาจากที่ใด คุณสามารถเลือกตั้งค่าความยินยอมการใช้คุกกี้ได้ นโยบายความเป็นส่วนตัว (Privacy Policy)