บทความสุขภาพ

ตรวจสมองด้วย mri เทคโนโลยีสุดแม่นยำและปลอดภัย

บทความโดย: seoteam seoteam วันที่อัพเดท: 15 พฤษภาคม 2567

ตรวจสมอง

การตรวจสมอง เป็นการตรวจเพื่อคัดกรองความผิดปกติหรือโรคต่าง ๆ โดยในปัจจุบันมีการใช้เครื่อง MRI (Magnetic Resonance Imaging) ในการตรวจสุขภาพสมอง ซึ่ง MRI จะเป็นการใช้คลื่นสนามแม่เหล็ก ไม่จำเป็นต้องใช้รังสี ภาพมีความคมชัด ใกล้เคียงกับอวัยวะจริง ดังนั้น การตรวจสแกนสมองด้วย MRI จึงเป็นวิธีการตรวจที่ปลอดภัยและแม่นยำมากที่สุดในขณะนี้

ในบทความนี้ จะแนะนำถึงข้อดีของการตรวจสมองด้วย MRI พร้อมขั้นตอนการเตรียมตัว รวมถึงเหตุผลว่านอกจากการตรวจสุขภาพประจำปีแล้ว ทำไมเราถึงต้องตรวจคลื่นสมองด้วยเช่นกัน


สารบัญบทความ


ทำไมเราถึงต้องตรวจสมอง?

การตรวจสมอง เป็นวิธีการวินิจฉัยโรคที่ให้ผลลัพธ์ชัดเจน ตรงจุด และเป็นวิธีที่สามารถหาสาเหตุได้อย่างแม่นยำมากกว่าการตรวจเพียงการซักปรุะวัติเท่านั้น

โปรแกรมการตรวจสมองนั้น จะเป็นการแสดงภาพของเนื้อเยื่อและอวัยวะอื่น ๆ บริเวณสมอง รวมถึงเส้นประสาท หลอดเลือดต่าง ๆ ซึ่งแพทย์จะสามารถทราบและเห็นถึงความผิดปกติได้อย่างรวดเร็ว ทำให้วินิจฉัยถึงโรคได้ และได้รับการรักษาอย่างทันท่วงที


อาการต่าง ๆ ที่บ่งบอกว่าเราควรไปตรวจสมอง

เมื่อไรที่จำเป็นจะต้องรับการตรวจสมอง? นอกจากผู้ป่วยที่เกิดอุบัติเหตุที่อาจส่งผลกระทบต่อสมองแล้ว อาการเหล่านี้ตั้งแต่เล็กน้อยจนไปถึงอาการที่ส่งผลต่อร่างกายอย่างไม่ปกติ ก็มีความจำเป็นที่จะต้องตรวจสมองเช่นกัน เช่นอาการดังต่อไปนี้

  • ปวดศีรษะรุนแรง และยังมีอาการอย่างต่อเนื่องแม้จะได้รับการรักษาเบื้องต้นแล้ว
  • มีการอาเจียนรุนแรง หรือบ่อยครั้งจนผิดปกติ โดยปกติแล้ว คนเราสามารถอาเจียนได้หากมีการรับประทานอาหารที่ผิดปกติ แต่หากมีการอาเจียนอย่างต่อเนื่องมากกว่า 48 ชั่วโมงขึ้นไป ร่วมด้วยอาการปวดศีรษะ หรือสายตาเริ่มเบลอ หากมีอาการเหล่านี้ควรเข้ารับการตรวจสมอง และนอกจากนี้ หากมีการอาเจียนจนรู้สึกเจ็บหน้าอกร่วมด้วย อาจต้องรับการตรวจหัวใจเช่นเดียวกัน
  • มีอาการชักนานเกิน 5 นาที หรือหายใจผิดปกติหลังการชัก
  • มีอาการเจ็บปวดบริเวณเหนือกะโหลก กดแล้วเจ็บ
  • มีเลือด หรือของเหลวไหลออกจากจมูกและหู
  • ขนาดของตาดำไม่เท่ากัน เช่น ข้างหนึ่งใหญ่กว่าตาดำอีกข้าง
  • มีอาการกล้ามเนื้ออ่อนแรงบนใบหน้า หรือส่วนต่าง ๆ ของร่างกาย
  • สายตาเบลอ เห็นภาพทับซ้อน ใส่แว่นแล้วปวดหัว สมรรถภาพในการมองลดลง
  • เริ่มมีปัญหาทางการพูด การกลืน และการได้ยิน

ข้อดีของการตรวจสมองด้วย MRI

การตรวจสมองด้วย MRI ดีอย่างไร? ข้อดีของการตรวจสมองด้วยเครื่อง MRI มีดังนี้

  • สามารถพบความผิดปกติได้รวดเร็ว และทำให้สามารถวินิจฉัยขอบเขตของโรคเพื่อวางแผนการรักษาได้อย่างตรงจุด
  • ไม่ต้องใช้รังสีในการสแกนตรวจสมอง ส่งผลให้ไม่เกิดอันตรายต่อเนื้อเยื่อ เหมาะสำหรับผู้ป่วยที่มีข้อจำกัดบางประการ
  • สามารถวิเคราะห์ ตรวจระบบอวัยวะได้หลายจุด อาทิ ตรวจหัวใจ สมอง ปอด, ระบบกล้ามเนื้อ ข้อ และกระดูก, ระบบไขสันหลัง หลอดเลือด เป็นต้น
  • ตรวจ MRI สมอง ตรวจเส้นประสาทไขสันหลัง หรือร่างกาย รวมถึงหลอดเลือด ไม่จำเป็นต้องสวนสายยางและฉีดสารทึบรังสี ซึ่งเป็นการลดความเสี่ยงและเป็นประโยชน์กับการแพทย์ในปัจจุบันอย่างมาก
  • ภาพที่ได้จากการสแกนสมองด้วย MRI มีความคมชัด ตรวจได้หลายระนาบ สามารถแยกความแตกต่างระหว่างเนื้อเยื่อได้ ส่งผลให้การวินิจฉัยโรคเป็นไปอย่างแม่นยำ
  • สามารถวินิจฉัยรอยโรคในตับได้ดีกว่าเครื่องมืออื่น ๆ
  • หากมีการใช้สีกับเครื่อง MRI โอกาสเกิดการแพ้นั้นน้อยกว่าการทำเอกซเรย์หรือ CT Scan

ข้อแตกต่างระหว่างการตรวจสมองด้วย MRI และ CT Scan

ตรวจสมองด้วย MRI ต่างกับการตรวจด้วยการเอกซเรย์คอมพิวเตอร์ (Computed Tomography Scan) หรือ CT Scan อย่างไร? ปัจจุบันการตรวจความผิดปกติของอวัยวะภายในต่าง ๆ ก็มักจะใช้ทั้งสองเทคโนโลยีนี้ในการตรวจขึ้นอยู่กับผู้รับการรักษา หรือความจำเป็นในการเลือกเทคโนโลยีการตรวจ ทั้งสองแบบนี้มีความแตกต่างกันดังรายละเอียดดังต่อไปนี้

  • MRI ไม่ใช้รังสี แต่ CT Scan ต้องใช้รังสี

MRI ไม่ต้องใช้รังสีในการตรวจสมอง แต่ใช้คลื่นแม่เหล็กซึ่งเป็นการสร้างสนามแม่เหล็กไฟฟ้าบริเวณรอบตัวของผู้รับการตรวจ โดยการใช้คลื่นแม่เหล็กไฟฟ้านี้ยังไม่พบผลกระทบต่อสุขภาพ จึงเป็นวิธีที่ปลอดภัยมากกว่า ในส่วนของ การใช้ CT สแกนสมองนั้น จะมีการใช้แสงเอกซเรย์ฉายลงบนตัวผู้รับการตรวจเพื่อให้เกิดเงาภาพ ซึ่งรังสีเหล่านี้อาจส่งผลกระทบต่อเนื้อเยื่อบางจุดได้

  • Contrast Media หรือสารเพิ่มความชัดของภาพที่ใช้มีความแตกต่างกัน

การตรวจสมองด้วย MRI จะไม่มีไอโอดีนเป็นส่วนประกอบของสารเพิ่มความชัดของภาพ ซึ่งไม่ทำให้เกิดผลกระทบกับไต ในขณะที่การทำ CT Scan จะมีการฉีดสารทึบแสง โดยในสารนี้จะมีไอโอดีนเป็นส่วนประกอบ ส่งผลให้เกิดความเสี่ยงที่จะเกิดพิษกับไตได้ ดังนั้นในผู้รับการตรวจที่มีประวัติโรคไต จำเป็นต้องใช้ความระมัดระวังเป็นพิเศษมากกว่าหากตรวจด้วย CT Scan

  • ความเหมาะสมของการตรวจอวัยวะแตกต่างกัน

MRI นั้นจะเหมาะกับการตรวจเนื้อเยื่ออ่อน เนื่องจากผลแสดงภาพของ MRI สามารถแยกความแตกต่างของเนื้อเยื่อได้อย่างชัดเจน นอกจากนี้แล้วการใช้คลื่นสนามแม่เหล็กของ MRI จะมีการตรวจจับการเคลื่อนที่โปรตอนของน้ำ ซึ่งอวัยวะที่มีส่วนประกอบของน้ำมากก็จะทำให้ได้ผลลัพธ์ที่ดี ในขณะที่กระดูกนั้นมีส่วนประกอบของน้ำน้อย ดังนั้น CT Scan จึงเหมาะกับการตรวจกระดูก

  • ใช้เวลาในการตรวจแตกต่างกัน

การตรวจ CT Scan จะมีระยะเวลาที่สั้นกว่าตรวจด้วย MRI โดย CT Scan นั้นใช้เวลาในการตรวจประมาณ 10-15 นาที ในขณะที่ MRI ใช้เวลาประมาณ 30-90 นาที


ตรวจสมองด้วย MRI สามารถรู้ว่าเป็นโรคอะไรได้บ้าง? ทราบโรคส่วนอื่นนอกจากสมองได้หรือไม่

การตรวจคลื่นสมองด้วย MRI นอกจากจะทราบความผิดปกติหรือโรคที่มีสาเหตุมาจากสมองแล้ว ยังสามารถทราบโรคอื่น ๆ ได้อีกด้วย ดังนี้

  • ตรวจเส้นเลือดในสมอง โรคภาวะสมองขาดเลือด
  • เนื้องอกในสมอง
  • ตรวจโรคทางระบบประสาท และสมอง
  • โรคหัวใจ
  • โรคเกี่ยวกับช่องท้องและทรวงอก
  • โรคอัมพฤกษ์ อัมพาต
  • คัดกรองโรคสมองเสื่อม
  • โรคเกี่ยวกับถุงน้ำดี และท่อน้ำดี
  • โรคมะเร็งเต้านม
  • โรคที่เกี่ยวข้องกับกล้ามเนื้อ ข้อ และกระดูก

เตรียมตัวอย่างไรก่อนตรวจสมองด้วยเครื่อง MRI เพื่อผลลัพธ์ที่ถูกต้องและปลอดภัย

หากจะเข้ารับการตรวจสมองด้วย MRI ควรจะต้องมีการเตรียมตัวก่อนล่วงหน้า ดังนี้

  1. กรณีที่ผู้รับการตรวจให้ความร่วมมือ ไม่จำเป็นต้องงดน้ำและอาหาร หรือยา กรณีผู้รับการตรวจไม่ให้ความร่วมมือ อาจต้องให้ยาสลบ หรือยานอนหลับ รวมถึงต้องมีการงดน้ำและอาหารอย่างน้อย 4-6 ชั่วโมงก่อนการตรวจ
  2. เข้าห้องน้ำให้เรียบร้อยก่อนการตรวจ
  3. งดการแต่งหน้า การใช้เครื่องสำอางในวันรับการตรวจ เนื่องจากในเครื่องสำอางบางชนิดอาจมีส่วนประกอบของโลหะ
  4. ถอดเครื่องประดับให้เรียบร้อยก่อนรับการตรวจ เช่น กำไลข้อมือ, ต่างหู, แหวน หรือนาฬิกา 
  5. หากมีประวัติการรักษาโดยมีเครื่องมือฝังอยู่ภายในร่างกาย เช่น เครื่องกระตุ้นหัวใจ ควรแจ้งกับแพทย์ก่อนทำ MRI

ขั้นตอนในการตรวจสมองด้วย MRI มีอะไรบ้าง?

การตรวจสมองด้วย MRI มีขั้นตอนอย่างไรบ้าง?

  1. แจ้งประวัติ และนัดหมายการรักษา
  2. เจ้าหน้าที่จะพาผู้เข้ารับการตรวจนอนลงบนเครื่อง จัดท่าทางให้อยู่ในตำแหน่งที่เหมาะสม
  3. ผู้รับการตรวจสวมอุปกรณ์สำหรับป้องกันเสียง และลูกบีบยาง
  4. แพทย์หรือเจ้าหน้าที่จะสวมเครื่องจับสัญญาณ (Magnetic Cail) ให้ผู้ตรวจ จากนั้นเคลื่อนตัวเข้าไปภายในอุโมงค์ของเครื่อง
  5. ระหว่างการตรวจไม่ควรขยับตัว ผ่อนคลายให้ได้มากที่สุด
  6. เมื่อการตรวจเสร็จเรียบร้อยแล้ว จะมีการนัดหมายรอรับฟังผลตรวจ เป็นอันเสร็จสิ้นการตรวจสมอง

สรุปเรื่อง ตรวจสมอง ไม่ยุ่งยาก รวดเร็วและปลอดภัย

การตรวจสมองนั้น ขั้นตอนไม่เยอะและยุ่งยากอย่างที่คิด ทั้งนี้การตรวจสมองด้วย MRI เป็นวิธีที่ปลอดภัย วินิจฉัยโรคได้หลากหลาย รวดเร็วและแม่นยำ หากมีอาการปวดหัว หรือเกิดความผิดปกติบนร่างกายอย่างต่อเนื่อง ควรเข้ารับการตรวจสมอง เพื่อให้ทราบถึงโรคและวางแผนการรักษาได้ทันท่วงที

นอกจากนี้ การตรวจสมองก็เป็นวิธีการตรวจสุขภาพที่ดีอย่างหนึ่ง เพื่อที่จะได้วางแผนดูแลสุขภาพ หรือป้องกันโรคที่อาจเกิดขึ้นได้ในอนาคต รวมถึงท่านใดที่วางแผนสร้างครอบครัว เพิ่มการตรวจสมองเป็นการตรวจสุขภาพก่อนแต่งงานก็ได้เช่นกัน

เพราะสุขภาพของคุณเป็นเรื่องสำคัญ ให้โรงพยาบาลสมิติเวช ไชน่าทาวน์ดูแล สอบถามค่าบริการตรวจ MRI สมอง ราคาค่าใช้จ่าย หรือปรึกษาการตรวจสมอง ติดต่อ :


References
 

Cleveland Clinic Medical Professional. (2022, September 5). Brain MRI: What It Is, Purpose, Procedure & Results. Cleveland Clinic. https://my.clevelandclinic.org/health/diagnostics/22966-brain-mri

Head MRI Information. (2024, February 19). Mount Sinai - New York. https://www.mountsinai.org/health-library/tests/head-mri

Mayo Clinic Staff. (2023, September 9). MRI. Mayo Clinic. https://www.mayoclinic.org/tests-procedures/mri/about/pac-20384768

บทความและสุขภาพอื่นที่น่าสนใจ
pdpa-icon

เราใช้คุกกี้เพื่อเพิ่มประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ แสดงเนื้อหาให้ตรงกับความสนใจ รวมถึงเพื่อวิเคราะห์การเข้าใช้งานเว็บไซต์และทำความเข้าใจว่าผู้ใช้งานมาจากที่ใด คุณสามารถเลือกตั้งค่าความยินยอมการใช้คุกกี้ได้ นโยบายความเป็นส่วนตัว​ (Privacy Policy)​