บทความสุขภาพ

กระดูกเท้าปูด (Hallux Valgus) เกิดจากอะไร ต้องผ่าตัดไหม?

บทความโดย: seoteam seoteam วันที่อัพเดท: 3 มกราคม 2568

กระดูกเท้าปูด

กระดูกเท้าปูด คือ ภาวะที่กระดูกบริเวณโคนนิ้วหัวแม่เท้าผิดรูป ทำให้นิ้วหัวแม่เท้าเบนเข้าหานิ้วชี้ และเกิดเป็นลักษณะกระดูกปูดออกมาด้านข้าง ก่อให้เกิดอาการเจ็บปวดโดยเฉพาะเมื่อเดินหรือใส่รองเท้า โรคเท้านี้สามารถเกิดขึ้นได้จากหลากหลายสาเหตุ ทั้งจากโครงสร้างเท้าผิดปกติ หรือมาจากพฤติกรรมการสวมใส่รองเท้าที่คับเกินไป 


สารบัญบทความ


ลักษณะและอาการของภาวะกระดูกเท้าปูด

hallux valgus คือ

กระดูกเท้าปูด (hallux valgus) คือ ภาวะที่มีความผิดรูปของกระดูกบริเวณโคนนิ้วหัวแม่เท้า ลักษณะกระดูกเท้าที่ปูดออกมานี้สามารถเกิดขึ้นได้ตั้งแต่เกิด ช่วงวัยรุ่น ไปจนถึงผู้สูงอายุ ส่งผลให้เกิดอาการต่าง ๆ ที่สร้างความเจ็บปวดตอนที่สวมใส่รองเท้าและรบกวนการใช้ชีวิตประจำวัน โดยรายละเอียดลักษณะของอาการกระดูกเท้าปูด มีดังนี้

  • กระดูกปูดนูนที่โคนนิ้วหัวแม่เท้า ซึ่งจะมีเหมือนเป็นปุ่มยื่นออกมาบริเวณข้อต่อของนิ้วหัวแม่เท้า
  • บริเวณที่กระดูกเท้าปูดจะรู้สึกเจ็บนิ้วเท้าและทำให้ผิวหนังบริเวณนั้นเกิดการบวมอักเสบ 
  • เมื่อสวมใส่รองเท้าที่หน้าแคบจะทำให้รู้สึกเจ็บนิ้วโป้งเท้าและเกิดการเสียดสีมากขึ้น
  • ผิวหนังตรงบริเวณโคนนิ้วหัวแม่เท้าจะมีลักษณะหนาและแข็งเป็นพิเศษ

รู้หรือไม่ ในบางเคสของผู้ป่วยโรคกระดูกเท้าปูดจะพบร่วมกับโรคเท้าแบน เพราะทั้งสองโรคมีสาเหตุมาจากโครงสร้างของเท้าที่ผิดปกติ เมื่อเท้าแบนจะทำให้การกระจายน้ำหนักของร่างกายเปลี่ยนแปลงไป ส่งผลให้เกิดแรงกดทับบริเวณข้อต่อนิ้วหัวแม่เท้า ซึ่งอาจเป็นปัจจัยที่เสริมให้เกิดภาวะกระดูกนิ้วโป้งเท้าปูดได้


สาเหตุของอาการกระดูกเท้าปูด

สาเหตุของอาการกระดูกเท้าปูดสามารถเกิดขึ้นได้จากหลายสาเหตุ ไม่ว่าจะปัจจัยทางพันธุกรรม อาการบาดเจ็บ โรคที่ทำให้เกิดอาการอักเสบอย่าง เช่น โรครูมาตอยด์ โรคเกาต์ รวมถึงการสวมรองเท้าที่ไม่เหมาะสม เพราะจะทำให้รู้สึกปวดโคนนิ้วหัวแม่เท้าและยิ่งทำให้อาการภาวะกระดูกเท้าปูดหนักยิ่งขึ้น รายละเอียดสาเหตุของอาการกระดูกเท้าปูด มีดังนี้

  • พันธุกรรม โดยส่วนใหญ่แล้วครอบครัวของผู้เป็นภาวะกระดูกเท้าปูดมักจะเคยมีประวัติการเป็นโรคนิ้วโป้งเท้าปูด และมีความเสี่ยงสูงที่ลูกหลานของครอบครัวนั้นจะเป็นโรคได้มากกว่าครอบครัวที่ไม่เคยมีประวัติ ซึ่งผู้ป่วยจะมีลักษณะโครงสร้างเท้าที่ผิดปกติ เช่น เท้าแบน หรือกระดูกเท้าปูดเอียงด้านข้าง 
  • อาการบาดเจ็บ ที่เกิดจากอุบัติเหตุต่าง ๆ และการบาดเจ็บตรงบริเวณนิ้วเท้า อาจส่งผลต่อโครงสร้างกระดูกและข้อต่อ ทำให้เกิดความผิดปกติจนกระดูกเท้าปูดออกมา
  • โรคที่ทำให้เกิดอาการอักเสบ เช่น โรครูมาตอยด์ โรคลูปัส และโรคเก๊าท์ เนื่องจากโรคเหล่านี้สามารถทำให้เอ็นนิ้วเท้าอักเสบและข้อต่อนิ้วหัวแม่เท้าเสื่อม ซึ่งนำไปสู่การเป็นภาวะกระดูกเท้าปูดได้
  • การสวมรองเท้าที่ไม่เหมาะสม เนื่องจากการสวมรองเท้าที่ไม่เหมาะสม เช่น รองเท้าคับเกินไป รองเท้าหน้าแคบหัวแหลม และรองเท้าส้นสูง จะทำให้นิ้วเท้าถูกกดทับและอยู่ในตำแหน่งที่ไม่เหมาะสม อาจส่งผลทำให้เกิดอาการกระดูกเท้าปูดและทำให้เกิดตาปลาที่เท้า

อาการกระดูกเท้าปูดส่งผลกระทบอย่างไร?

ปวดนิ้วโป้งเท้า

ภาวะกระดูกเท้าปูดไม่ได้น่ากังวลเพียงเรื่องของความสวยงามเท่านั้น แต่ยังส่งผลกระทบต่อสุขภาพและการดำเนินชีวิตประจำวัน ไม่ว่ากระดูกเท้าปูดจะเกิดจากสาเหตุอะไร? แต่ผลกระทบของอาการกระดูกเท้าปูดสามารถสร้างปัญหาต่าง ๆ ดังนี้

ผลกระทบต่อการเคลื่อนไหวร่างกาย

กระดูกเท้าปูดส่งผลต่อการเคลื่อนไหวและการทรงตัวอย่างชัดเจน เนื่องจากนิ้วหัวแม่เท้าที่ผิดรูปอาจทำให้การเดิน การวิ่ง หรือการยืนเป็นเวลานานเกิดความลำบากมากขึ้น ผู้ป่วยอาจรู้สึกปวดนิ้วโป้งเท้าหรือข้อเท้า ส่งผลให้ความคล่องแคล่วในการเคลื่อนไหวร่างกายลดลง และอาจกระทบต่อกิจกรรมในชีวิตประจำวัน

ผลกระทบต่อการเลือกสวมรองเท้า

ผู้ป่วยที่มีภาวะกระดูกเท้าปูดทำให้การเลือกรองเท้าเป็นเรื่องยากมากกว่าบุคคลทั่วไป เพราะความผิดรูปของกระดูกบริเวณโคนนิ้วหัวแม่เท้าและรองเท้าที่มีพื้นที่จำกัด ผู้ป่วยมักจะประสบปัญหารองเท้าคับเกินไปจนเกิดการเสียดสีและทำให้นิ้วโป้งเท้าบวม นอกจากนี้หากใส่รองเท้าที่ขนาดไม่พอดีก็ยิ่งทำให้เจ็บเนื้อใต้เล็บอีกด้วย

อาการเจ็บปวดที่ส่งผลต่อชีวิตประจำวัน

ภาวะกระดูกเท้าปูดส่วนใหญ่มักจะมีอาการเจ็บปวด บวมแดงที่บริเวณข้อนิ้วปูด และมีอาการเรื้อรัง ซึ่งส่งผลกระทบต่อการทำกิจกรรมในชีวิตประจำวัน เช่น การเดิน วิ่ง ออกกำลังกาย หรือแม้กระทั่งการยืนในระยะเวลาสั้น ๆ

ปัญหาที่อาจเกิดขึ้นหากไม่ได้รับการรักษา

หากไม่ได้รับการรักษาหรือหาวิธีแก้อาการปวดนิ้วเท้าเอียงอย่างเหมาะสม อาการกระดูกเท้าปูดอาจเกิดภาวะแทรกซ้อนอื่น ๆ เช่น โรครองช้ำ เล็บขบ ตาปลา นิ้วเท้าหงิกผิดรูป และถุงน้ำอักเสบบริเวณนิ้วเท้า

ผลกระทบต่อความมั่นใจในตัวเอง

เนื่องจากภาวะกระดูกเท้าปูดทำให้ลักษณะของเท้าเกิดการผิดรูป ส่งผลทำให้เมื่อผู้ป่วยสวมใส่รองเท้าที่เปิดหน้าเท้า หรือรองเท้าแตะ เกิดความรู้สึกไม่มั่นใจในตัวเองได้


การวินิจฉัยอาการกระดูกเท้าปูด 

การวินิจฉัยภาวะกระดูกเท้าปูด หรือกระดูกนิ้วโป้งเท้าเอียงจำเป็นต้องอาศัยการประเมินโดยละเอียดจากแพทย์ โดยมีขั้นตอนพื้นฐานการวินิจฉัย ดังนี้

  • การซักประวัติผู้ป่วย แพทย์จะสอบถามเกี่ยวกับอาการปวด ตำแหน่งที่ปวด ระยะเวลาที่เป็นอาการ กิจกรรมที่กระตุ้นให้อาการแย่ลง ประวัติการบาดเจ็บ และประวัติครอบครัว เนื่องจากภาวะนี้มีแนวโน้มทางพันธุกรรม
  • การตรวจร่างกาย แพทย์จะตรวจดูลักษณะของเท้าโดยรวม สังเกตความผิดปกติของกระดูกที่ปูด หน้าเท้ากว้างผิดปกติ และอาจมีการคลำตรวจเพื่อหาจุดที่เจ็บ
  • การตรวจทางรังสีวิทยา การเอกซเรย์เป็นวิธีการที่สำคัญที่สุดในการวินิจฉัยภาวะนี้ ช่วยให้แพทย์เห็นภาพของกระดูกที่ผิดรูป วัดมุมของการเอียง และความรุนแรงของโรคได้อย่างชัดเจน ทำให้สามารถวางแผนการรักษาได้อย่างมีประสิทธิภาพ นอกจากนี้ อาจมีการตรวจเพิ่มเติม เช่น MRI หรืออัลตราซาวนด์ เพื่อดูรายละเอียดของเนื้อเยื่ออ่อน

วิธีการรักษาอาการกระดูกเท้าปูด

วิธีรักษา นิ้วเท้าเอียง

วิธีรักษากระดูกเท้าโปนหรือกระดูกเท้าปูด มีวิธีรักษาอยู่ด้วยกัน 2 วิธีหลัก ได้แก่ รักษาด้วยการผ่าตัด และรักษาโดยไม่ต้องผ่าตัด ซึ่งแต่ละวิธีในการรักษาจะขึ้นอยู่ระดับความรุนแรงของอาการกระดูกเท้าปูด รวมถึงดุลยพินิจของแพทย์ในการเลือกใช้รักษาผู้ป่วยแต่ละราย โดยวิธีการรักษาอาการกระดูกเท้าปูด มีดังนี้

วิธีการรักษาด้วยการผ่าตัด

วิธีการรักษาด้วยการผ่าตัด เหมาะกับผู้ป่วยภาวะกระดูกเท้าปูดที่มีอาการรุนแรงและมีผลกระทบต่อชีวิตประจำวันโดยวิธีการรักษาด้วยการผ่าตัดเป็นวิธีการรักษาด้วยการปรับแนวทั้งกระดูกส่วนต้นและส่วนปลาย ทำให้นิ้วตรงขึ้นและหน้าเท้าแคบลง

วิธีการรักษาที่ไม่ต้องผ่าตัด

วิธีการรักษาที่ไม่ต้องผ่าตัด เหมาะกับผู้ป่วยที่อาการไม่รุนแรงมากนักและไม่มีอาการปวดรุนแรง เป็นการรักษาประคับประคองอาการ อาทิ 

  • ปรับเปลี่ยนใส่รองเท้าให้เหมาะสมกับรูปทรงเท้า
  • ใส่ถุงเท้าหนาเพื่อลดอาการเสียดสี
  • ใช้อุปกรณ์ซิลิโคนที่เรียกว่า Gel Toe Spreader เจลแยกนิ้วเท้า เพื่อลดแรงกดและการเสียดสีจากรองเท้า
  • รับประทานยาลดอาการอักเสบ 

กระดูกเท้าปูด นิ้วโป้งเท้าเอียงเบนผิดรูป ต้องรีบรับรักษาอย่างถูกต้อง

จะเห็นได้ว่าพฤติกรรมการสวมใส่รองเท้าที่คับเกินไปเป็นประจำ ถือเป็นการทำร้ายเท้าของคุณโดยไม่รู้ตัว และอาจนำไปสู่ปัญหาสุขภาพเท้าที่ร้ายแรง ไม่ว่าจะเป็นอาการปวดเมื่อย ปัญหาเล็บขบ หรือแม้แต่ภาวะกระดูกเท้าปูด 

อย่าปล่อยให้ปัญหาความผิดปกติตรงเท้าเป็นเรื่องเล็กน้อยกลายเป็นปัญหาใหญ่ เพราะเท้าเป็นส่วนที่ต้องรับน้ำหนักตัวและช่วยให้เราเคลื่อนไหวได้อย่างสะดวก หากมีอาการผิดปกติใด ๆ ควรรีบปรึกษาแพทย์เพื่อรับการรักษาที่ถูกต้อง 

โรงพยาบาลสมิติเวช ไชน่าทาวน์ มีทีมแพทย์ผู้มีความรู้ความเข้าใจด้านกระดูก ข้อ และโรคเท้าทุกประเภทเป็นอย่างดี พร้อมให้คำปรึกษาและวางแผนการรักษาที่เหมาะสม ไม่ว่าจะเป็นการรักษาแบบไม่ผ่าตัด เช่น การทำกายภาพบำบัด หรือการรักษาด้วยยา หรือการผ่าตัดในกรณีที่อาการรุนแรง

ช่องทางติดต่อ

  • Line : @samitivejchinatown
  • Tel: 02-118-7893 (ตลอด 24 ชั่วโมง)

References

James Kuhn; Farhan Alvi. (2023 August 28). Hallux Valgus. https://www.ncbi.nlm.nih.gov/books/NBK553092/

Thomas Schneider. (2022 November 28). Hallux valgus: A minimally invasive surgery corrects the position of the big toe. https://www.joint-surgeon.com/orthopedic-services/foot-and-ankle/hallux-valgus-hallux-rigidus-bunion-surgery.html

บทความและสุขภาพอื่นที่น่าสนใจ
pdpa-icon

เราใช้คุกกี้เพื่อเพิ่มประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ แสดงเนื้อหาให้ตรงกับความสนใจ รวมถึงเพื่อวิเคราะห์การเข้าใช้งานเว็บไซต์และทำความเข้าใจว่าผู้ใช้งานมาจากที่ใด คุณสามารถเลือกตั้งค่าความยินยอมการใช้คุกกี้ได้ นโยบายความเป็นส่วนตัว​ (Privacy Policy)​