บทความสุขภาพ

เท้าลอก เกิดจากอะไร? ทำอย่างไรถึงจะหาย

บทความโดย: seoteam seoteam วันที่อัพเดท: 21 มกราคม 2568

เท้าลอก

เชื่อว่าปัญหาเท้าลอก เป็นเรื่องที่หลายคนเคยพบเจอ อาการผิวหนังบริเวณเท้าที่ลอกเป็นขุย หรือหลุดลอกออกมานั้นอาจบ่งบอกถึงปัญหาสุขภาพที่ซ่อนอยู่ได้ หากปล่อยทิ้งไว้โดยไม่รักษา อาจนำไปสู่ปัญหาโรคเท้าที่ร้ายแรงตามมา เช่น การติดเชื้อราที่เท้า หรือโรคผิวหนังอื่น ๆ ได้ 

การทำความเข้าใจถึงสาเหตุและวิธีการรักษาเท้าลอกจึงเป็นสิ่งสำคัญ เพื่อให้เท้าของคุณมีสุขภาพดีและป้องกันไม่ให้เกิดอาการผิดปกติที่เท้า รู้ทัน! ปัญหาเท้าลอก ตั้งแต่สาเหตุที่ทำให้เกิดเท้าลอก วิธีการรักษาที่ถูกต้อง และเคล็ดลับในการป้องกันไม่ให้เท้าลอกกลับมาอีก


สารบัญบทความ


เท้าลอกคืออะไร มีลักษณะเป็นอย่างไร?

เท้าลอกเกิดจาก

เท้าลอก คือ ภาวะที่ผิวหนังบริเวณเท้าหลุดออกมาเป็นแผ่นหรือเป็นขุยเล็ก ๆ ซึ่งอาจเกิดขึ้นได้ทั้งบริเวณฝ่าเท้า ส้นเท้า หรือระหว่างนิ้วเท้า โดยอาการเท้าลอกสามารถเกิดได้จากหลายสาเหตุ และอาจส่งผลให้เกิดความไม่มั่นใจเวลาที่ต้องใส่รองเท้าเปิดส้น

หากมีอาการเท้าลอกเกิดขึ้น อย่าชะล่าใจ เพราะมันอาจเป็นสัญญาณที่บ่งบอกถึงปัญหาสุขภาพบางอย่างได้ รวมถึงปัญหาส้นเท้าแตกที่มักเกิดขึ้นพร้อม ๆ กับอาการเท้าลอก


สาเหตุของอาการเท้าลอก

เท้าลอกเป็นปัญหาผิวหนังที่พบได้ทั่วไป อาการนี้ไม่เพียงแต่ทำให้ผิวเท้าดูไม่สวยงาม แต่ยังก่อให้เกิดอาการเท้าแห้ง ลามไปจนถึงนิ้วเท้าลอกอีกด้วย และทำให้รู้สึกไม่สบายตัวเวลาเดิน มาดูกันว่าสาเหตุหลักของอาการเท้าลอกมีอะไรบ้าง

  • ผิวแห้งขาดความชุ่มชื้น การขาดน้ำในชั้นผิวหนัง ทำให้ผิวแห้งกร้านและหลุดลอกได้ง่าย โดยเฉพาะบริเวณส้นเท้าที่ต้องรับน้ำหนักตัว
  • ขาดสารอาหารหรือวิตามินบางชนิด เช่น วิตามิน A และวิตามิน E ส่งผลให้ผิวหนังแห้งและลอกง่ายขึ้น
  • สภาพอากาศ เมื่ออยู่ในสภาพอากาศที่แห้งหรือร้อนชื้นเป็นประจำ รวมถึงการสวมใส่รองเท้าที่ไม่เหมาะสมเป็นปัจจัยที่กระตุ้นให้ผิวเท้าลอกได้ เช่น รองเท้าคับเกินไป หรือรองเท้าที่ทำจากวัสดุที่ไม่ระบายอากาศ
  • ติดเชื้อรา อีกหนึ่งสาเหตุหลักของอาการเท้าลอก เกิดจากการเป็นเชื้อราที่เท้า เช่น เชื้อรา Trichophyton ที่พบได้บ่อยเป็นสาเหตุทำให้เกิดอาการติดเชื้อราที่ผิวหนัง จนมีอาการคัน มีรอยแดง เท้าเหม็นและผิวหนังลอก โดยเฉพาะบริเวณระหว่างนิ้วเท้า
  • โรคผิวหนังบางชนิด เช่น โรคผื่นผิวหนังอักเสบชนิดตุ่มน้ำใส โรคสะเก็ดเงิน หรือโรคภูมิแพ้ผิวหนัง
  • เท้าสัมผัสกับน้ำนานเกินไป เช่น การแช่ตัวในอ่างอาบน้ำ ว่ายน้ำ หรือเอาเท้าแช่น้ำ ส่งผลทำให้เกิดการสูญเสียน้ำมันตามธรรมชาติ ทำให้ผิวแห้ง แตก และเกิดอาการเท้าลอกและเท้าเปื่อย
  • อาการแพ้ต่าง ๆ เช่น การแพ้สารเคมีในผลิตภัณฑ์ดูแลผิว หรือการใช้สบู่ที่รุนแรงทำลายสุขภาพผิวเท้า ทำให้ผิวแห้งและลอกออกมา

วิธีการดูแลรักษาอาการเท้าลอกให้หายดี

เท้าลอกวิธีแก้

อย่างที่ทราบกันไปก่อนหน้านี้แล้วว่าอาการเท้าลอกเกิดจากอะไร ซึ่งปัญหาเท้าลอกไม่ใช่เรื่องน่ากังวลใจแต่อย่างใด เนื่องจากอาการเท้าลอกมีวิธีแก้และวิธีการดูแลรักษาที่หลากหลายโดยวิธีการดูแลรักษาอาการเท้าลอก ดังนี้

รักษาความสะอาดของเท้า 

รักษาความสะอาดของเท้า โดยการล้างเท้ากับสบู่อ่อน ๆ ล้างด้วยน้ำสะอาดและเช็ดเท้าให้แห้งสนิท ซึ่งจะช่วยลดโอกาสการติดเชื้อราหรือแบคทีเรีย หนึ่งในสาเหตุของอาการเท้าลอก

รักษาด้วยการกินยา

หากคุณทราบแล้วว่าอาการหนังเท้าลอกเกิดขึ้นจากโรคน้ำกัดเท้า หรือโรคผื่นผิวหนังต่าง ๆ ต้องรักษาด้วยการใช้ยาที่ช่วยกำจัดเชื้อราที่เกิดขึ้นได้ โดยยารักษาสามารถหาซื้อได้ตามร้านขายยาทั่วไป เช่น ยาต้านเชื้อราชนิดยาทาเฉพาะที่ ยาแก้แพ้ เป็นต้น ทั้งนี้ควรปรึกษาแพทย์ผิวหนังก่อนเลือกทานยา

รักษาด้วยวิธีทางการแพทย์

เมื่ออาการเท้าลอกรุนแรงขึ้นหรือไม่มีทีท่าว่าจะดีขึ้น แพทย์อาจพิจารณาให้การรักษาโดยวิธีการทางการแพทย์ที่แตกต่างกันออกไปขึ้นอยู่กับสาเหตุและความรุนแรงของอาการ อาทิ การใช้ยาต้านเชื้อราเพื่อกำจัดเชื้อราที่เป็นต้นเหตุ การใช้ยาชนิด Corticosteroids (คอร์ติโคสเตียรอยด์) เพื่อลดการอักเสบ การใช้ยากดภูมิคุ้มกันในกรณีที่เท้าลอกเกิดจากโรคภูมิแพ้ผิวหนัง หรือรักษาด้วยการฉายแสง 

ปรับพฤติกรรมและสวมใส่รองเท้าให้เหมาะสม

การเลือกสวมใส่รองเท้าที่เหมาะสมเป็นสิ่งสำคัญในการดูแลสุขภาพเท้าและป้องกันปัญหาเท้าลอก หากคุณมีพฤติกรรมที่ชอบสวมรองเท้าคับเกินไปเป็นประจำจะทำให้เท้าอับชื้น ซึ่งเป็นภาวะที่เอื้อต่อการเกิดเชื้อราและแบคทีเรียที่ทำให้ผิวหนังเท้าลอกได้ง่ายขึ้น รวมถึง การเสียดสีจากรองเท้าอาจทำให้ผิวหนังบริเวณเท้าเกิดการระคายเคืองและลอกเป็นขุยได้เช่นกัน ดังนั้น ควรเลือกสวมใส่รองเท้าที่พอดีกับรูปเท้าและทำจากวัสดุที่ระบายอากาศได้ดีจึงเป็นวิธีรักษาง่าย ๆ และบรรเทาอาการเท้าลอกได้


วิธีการป้องกันไม่ให้เป็นเท้าลอก

แนวทางและวิธีการป้องกันไม่ให้เท้าลอก สามารถปฏิบัติตามขั้นตอนง่าย ๆ ดังนี้

  • ทำความสะอาดเท้าและบริเวณนิ้วเท้าเป็นประจำทุกวัน หรือสครับผิวเบา ๆ ร่วมด้วยเพื่อขจัดเซลล์ผิวที่ตายแล้ว และควรทำอย่างเบามือเพื่อกันการระคายเคือง
  • หลังจากทำความสะอาดเท้าควรเช็ดเท้าให้แห้งสนิททุกครั้ง
  • หากคุณเป็นคนผิวแห้ง ควรทาครีมบำรุงผิวเท้าให้ชุ่มชื้น
  • เลือกสวมใส่รองเท้าให้พอดีกับขนาดเท้า ไม่แน่นเกินไปหรือไม่คับเกินไป
  • เลือกสวมใส่ถุงเท้าและรองเท้าที่เหมาะสมกับสภาพอากาศ 
  • หมั่นสังเกตเท้าว่ามีความผิดปกติหรือไม่ เช่น อาการบวม คัน รอยแดง เป็นต้น เพื่อทำการดูแลรักษาก่อนที่อาการจะรุนแรงขึ้น

เท้าลอก อย่ามองข้าม อาจเป็นสัญญาณเตือนโรคต่าง ๆ 

ปัญหาเท้าลอกไม่ได้เกิดจากเพียงแค่สภาพอากาศหรือการดูแลเท้าไม่ดีเท่านั้น แต่ยังอาจเกิดจากปัจจัยภายในร่างกาย เช่น การขาดวิตามิน หรือโรคบางชนิดได้อีกด้วย การปล่อยปละละเลยปัญหาเท้าลอกอาจนำไปสู่ภาวะแทรกซ้อน เช่น การติดเชื้อราที่เท้า หรือโรคผิวหนังอื่น ๆ ที่ร้ายแรงกว่า การดูแลและป้องกันอย่างถูกวิธีจึงเป็นสิ่งสำคัญ การเลือกใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวเท้าที่เหมาะสม รักษาความสะอาดของเท้า และเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับผิวหนังเป็นประจำจะช่วยลดโอกาสในการเกิดเท้าลอกซ้ำได้ 

หากคุณกำลังกังวลใจกับปัญหาเท้าลอก หรืออาการผิดปกติอื่น ๆ ที่เกิดขึ้นกับผิวหนังบริเวณเท้า ทีมแพทย์ผู้ชำนาญการเฉพาะทางด้านผิวหนังของสมิติเวชไชน่าทาวน์ พร้อมให้คำปรึกษาและวางแผนการรักษาที่เหมาะสมกับคุณ 

  • Line : @samitivejchinatown
  • Tel: 02-118-7893 (ตลอด 24 ชั่วโมง)

References

Medlineplus. (n.d.). Peeling skin syndrome 2. https://medlineplus.gov/genetics/condition/peeling-skin-syndrome-2/

PCDS. (2022, October 3). Peeling skin conditions. https://www.pcds.org.uk/clinical-guidance/peeling-skin-syndromes1

บทความและสุขภาพอื่นที่น่าสนใจ
pdpa-icon

เราใช้คุกกี้เพื่อเพิ่มประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ แสดงเนื้อหาให้ตรงกับความสนใจ รวมถึงเพื่อวิเคราะห์การเข้าใช้งานเว็บไซต์และทำความเข้าใจว่าผู้ใช้งานมาจากที่ใด คุณสามารถเลือกตั้งค่าความยินยอมการใช้คุกกี้ได้ นโยบายความเป็นส่วนตัว​ (Privacy Policy)​