บทความสุขภาพ

เท้าเป็นรู ต้นเหตุของ “กลิ่นเท้า” ที่หลายคนไม่รู้ตัว

บทความโดย: seoteam seoteam วันที่อัพเดท: 27 กุมภาพันธ์ 2568

เท้าเป็นรู

หลายคนมีปัญหากลิ่นเท้าแรง แม้ว่าจะพยายามล้างทำความสะอาดแล้ว หรือเปลี่ยนรองเท้าใหม่แล้วก็ยังไม่หาย ปัญหานี้อาจทำให้เสียบุคลิกจนส่งผลต่อชีวิตประจำวัน ซึ่งภาวะนี้อาจนำไปสู่ โรคเท้า ที่ร้ายแรงกว่าที่คิด และเมื่อลองสังเกตดูบริเวณผิวของเท้าหลายคนอาจมองเห็นลักษณะคล้ายรูเล็ก ๆ ซึ่งนั่นเป็นภาวะที่เรียกว่า “เท้าเป็นรู” การรู้เท่าทันปัญหาทั้งอาการและสาเหตุ จะช่วยป้องกันโรคเท้าเป็นรู ก่อนที่จะเริ่มลุกลามกลายเป็นปัญหาใหญ่ได้ 


สารบัญบทความ


โรคเท้าเป็นรู คืออะไร?

เชื้อราที่เท้าเป็นรู

เท้าเป็นรู คือ โรคที่เกิดจากเชื้อแบคทีเรียบางชนิดที่เจริญเติบโตด้วยความอับชื้นจากเท้าที่มีเหงื่ออกเยอะ จนกลายเป็นโรคฝ่าเท้าเป็นรู และเท้าเปื่อย ซึ่งในคนไข้ที่มีอาการรุนแรง จะมองเห็นฝ่าเท้าเป็นรูเล็ก ๆ จำนวนมากทั่วฝ่าเท้า ซึ่งเชื้อแบคทีเรียอย่าง แคติโมนัยซีส โครีนีแบคทีเรีย หรือไคโตคอคคัส ซีเด็นทาเรียส เมื่อเติบโตจะทำลายชั้นผิวหนังจนทำให้เกิด โรคเท้าเป็นรู นอกจากนี้หลายคนยังมีอาการคัน หรือเจ็บเมื่อมีการเสียดสีกับรองเท้าขณะเดิน


สาเหตุการเกิดโรคเท้าเป็นรู

สำหรับสาเหตุหลักของการเกิดโรคเท้าเหม็น หรือเท้าเหม็นเป็นรู มาจากการสะสมของเชื้อแบคทีเรีย เช่น Corynebacteria, Kytococcus sedentarius, Streptomyces, Actinomyces หรือ Dermatophilus congolensis ซึ่งเป็นเชื้อแบคทีเรียที่เติบโตได้ดีในสภาวะที่มีความอับชื้นสูงจนทำให้เกิดอาการคัน และมีลักษณะเท้าเป็นรูได้ ซึ่งอาการโดยทั่วไปของโรคเท้าเป็นรูนั้นจะไม่ได้รู้สึกเจ็บเหมือนโรคเท้าอื่น ๆ เช่น ตาปลาที่เท้า หรืออาการเจ็บเนื้อใต้เล็บ แต่ก็สร้างความรำคาญจากอาการคัน และทำให้เสียความมั่นใจเพราะกลิ่นเท้าได้ 


ปัจจัยเสี่ยงทำให้เกิดโรคเท้าเป็นรู

นอกจากสาเหตุสำคัญจากเชื้อแบคทีเรียแล้ว ปัจจัยเสี่ยงเหล่านี้ยังทำให้เกิดฝ่าเท้าเป็นรูเล็ก ๆ ที่มาพร้อมกลิ่นไม่พึงประสงค์ได้ 

  • การสวมถุงเท้าหรือรองเท้าที่รัดแน่นเกิน
  • รองเท้าระบายอากาศได้ไม่ดี 
  • การทำงานกลางแจ้ง หรืองานที่ต้องยืนเป็นเวลานาน
  • โรคเบาหวานหรือมีแผลเบาหวานที่เท้า
  • การเช็ดทำความสะอาดเท้าได้ไม่ดี หรือปล่อยให้เท้าเปียกหลังอาบน้ำ
  • ผู้มีภาวะน้ำหนักเกินเกณฑ์ หรือเป็นโรคอ้วน
  • ผู้ประกอบอาชีพ เช่น นักกีฬา เกษตรกร ทหาร หรือผู้ใช้แรงงาน
  • อายุที่เพิ่มขึ้น 
  • ผู้ที่ระบบภูมิคุ้มกันบกพร่อง

วิธีรักษาอาการโรคเท้าเป็นรู

โรคเท้าเหม็นเป็นรู รักษายังไง

เมื่อแพทย์วินิจฉัยเป็นที่เรียบร้อยแล้วว่าเท้าติดเชื้อแบคทีเรีย หรือมีภาวะของโรคเท้าเป็นรู แพทย์จะทำการรักษาด้วยการพิจารณาจ่ายยาทาเท้าเป็นรู ซึ่งเป็นยาฆ่าเชื้อแบคทีเรียเพื่อรักษาจากต้นเหตุของภาวะที่เกิดขึ้น นอกจากยาทาแล้วยังมีรูปแบบของ ยาฟอก และยากิน โดยขึ้นอยู่กับการวินิจฉัยของแพทย์เพิ่มเติม โดยยาฆ่าเชื้อที่แพทย์เลือกจ่ายให้คนไข้ เช่น 

  • กรดฟูซิดิก (Fusidic Acid) 
  • มูพิโรซิน (Mupirocin) 
  • เบนโซอิล เพอร์ออกไซด์ (Benzoyl Peroxide)
  • คลินดามัยซิน (Clindamycin) 
  • อิริโทรมัยซิน (Erythromycin) 

กรณีที่คนไข้มีภาวะเท้าเป็นรูจากสาเหตุเหงื่อออกเท้ามากผิดปกติ อาจจ่ายยาดรายโซล (Drysol) หรือ ไอออนโตฟรีซีส (Iontophoresis)ซึ่งเป็นการรักษาภาวะเหงื่อออกมากเกินไป โดยการใช้กระแสไฟฟ้าอ่อน ๆ ทำให้ยาซึมเข้าสู่ผิวหนัง ทั้งนี้การวิธีรักษาภาวะเท้าเป็นรูด้วยยาฆ่าเชื้อส่วนใหญ่เห็นผลหลังใช้ยา 2-3 วัน 


วิธีป้องกันโรคเท้าเป็นรู ทำได้อย่างไร?

แม้ว่าการเป็นเชื้อราที่เท้า จนเท้าเป็นรูและส่งกลิ่นเหม็นสามารถรักษาได้ แต่ก็ไม่ควรปล่อยทิ้งไว้จนสูญเสียความมั่นใจ เพราะการป้องกันย่อมดีกว่าการรักษา ซึ่งวิธีป้องกันโรคเท้าเป็นรูสามารถทำได้ด้วยตัวเอง ดังนี้ 

  • การรักษาความสะอาดของเท้าและเช็ดทำความสะอาดให้แห้งหลังอาบน้ำอยู่เสมอ 
  • หลีกเลี่ยงการสวมรองเท้าคู่เดิมติดต่อกันหลายวัน หากจำเป็นควรนำรองเท้าตากแดดบ้างเพื่อลดความอับชื้น 
  • หลีกเลี่ยงการสวมรองเท้าเป็นเวลานาน 
  • กรณีที่จำเป็นต้องใช้เวลาท่ามกลางแสงแดดเป็นเวลานานควรเลือกใช้รองเท้าที่มีการระบายอากาศที่ดี มีช่องเปิด ไม่ปิดคลุมเท้ามิดชิดเกินไป 
  • เลือกใช้ถุงเท้าที่ใช้วัสดุช่วยระบายอากาศ เช่น โพลีเอสเตอร์ หรือไนลอน เพราะช่วยดูดซับความชื้นได้ดีกว่า
  • หากมีภาวะเหงื่อออกเท้ามาก ควรเปลี่ยนถุงเท้าระหว่างวัน 
  • หลีกเลี่ยงการใช้รองเท้า ถุงเท้า ร่วมกับผู้อื่น 
  • ควรรักษาสุขภาพเท้าให้สะอาด เช่น การตัดเล็บ และการทำความสะอาดซอกเล็บ เพื่อลดการสะสมของแบคทีเรีย 

เท้าเป็นรู ภาวะที่ทำให้สูญเสียความมั่นใจ ที่ต้องรีบรักษา

โรคเท้าเป็นรู คือ อีกหนึ่งภาวะที่ทำให้เสียบุคลิกภาพ ไม่เพียงแค่มีอาการคันได้ตลอดเวลาเท่านั้น แต่ยังเป็นภาวะที่ทำให้เกิดกลิ่นเหม็นจนหมดความมั่นใจได้ ทั้งนี้ การดูแลตัวเองทั้งเรื่องความสะอาด การปรับเปลี่ยนพฤติกรรม หรือการเลือกใช้รองเท้าให้เหมาะสมกับกิจกรรม วิธีเหล่านี้จะช่วยลดความเสี่ยงของการเกิดเท้าเป็นรูและยังช่วยให้มีสุขภาพเท้าที่ดี ปราศจากเชื้อและแบคทีเรียลดการเกิดโรคเกี่ยวกับเท้าได้ในระยะยาว 

สำหรับใครที่มีอาการคันฝ่าเท้า หรือสงสัยว่าอาจมีภาวะเท้าเป็นรู ควรรีบปรึกษาแพทย์เพื่อวินิจฉัยถึงสาเหตุและต้นตอของการเกิดโรคโดยเร็ว เพื่อป้องกันไม่ให้ลุกลามเป็นวงกว้างทั่วฝ่าเท้า ซึ่งที่โรงพยาบาลสมิติเวช ไชน่าทาวน์ มีทีมแพทย์เฉพาะทางที่พร้อมให้คำปรึกษาได้ตลอด 24 ชั่วโมง 

สามารถติดต่อได้ทาง 


References

Cindy Lam. (2022, july). Pitted keratolysis. University of Adelaide, South Australia. https://dermnetnz.org/topics/pitted-keratolysis

Stephanie S. Gardner. (2023, july 20). What Is Pitted Keratolysis?. WebMD. https://www.webmd.com/skin-problems-and-treatments/what-is-pitted-keratolysis

บทความและสุขภาพอื่นที่น่าสนใจ
pdpa-icon

เราใช้คุกกี้เพื่อเพิ่มประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ แสดงเนื้อหาให้ตรงกับความสนใจ รวมถึงเพื่อวิเคราะห์การเข้าใช้งานเว็บไซต์และทำความเข้าใจว่าผู้ใช้งานมาจากที่ใด คุณสามารถเลือกตั้งค่าความยินยอมการใช้คุกกี้ได้ นโยบายความเป็นส่วนตัว​ (Privacy Policy)​