การตรวจ ABI วัดความแข็งตัวของเลือด วินิจฉัยโรคหลอดเลือดแดงตีบตัน
                                    บทความโดย:     วันที่อัพเดท: 26 มีนาคม 2567
                                
                                
                             
                         
                        
                          
“โรคหลอดเลือดแดงตีบตัน” คือ ภาวะการอุดตันภายในเส้นเลือดตีบของบริเวณส่วนข้อแขนและข้อขาเป็นต้นไป โดยเกิดจากการอุดตันของไขมัน จุลินทรีย์ หรือเม็ดเลือดแดงเกิดการแข็งตัวจนเกาะกลุ่มขวางทางเดินเลือดไม่สามารถไหลเวียนช่วงแขนและขาได้
จึงทำให้ การตรวจ ABI เป็นตัวชี้วัดหาค่าสัดส่วนแปรผลเลือดจากการวัดความดันที่ขาแขน เพื่อนำผลลัพธ์นี้ไปเทียบค่า ABI แต่ละเกณฑ์ในการรักษาที่ถูกต้อง 
แล้วสาเหตุโรคหลอดเลือดแดงตีบตันเกิดขึ้นจากปัจจัยใด? อาการมีผลข้างเคียงอย่างไร? มีวิธีรักษาอย่างไรบ้าง? ทางโรงพยาบาลสมิติเวช ไชน่าทาวน์ จะพาผู้อ่านทำความเข้าใจการตรวจ ABI เพื่อเป็นดัชนีในการหาค่าความดันในการรักษาอย่างถูวิธีได้ในบทความนี้  
 
สารบัญบทความ
โรคหลอดเลือดแดงส่วนปลายตีบ หรือ Peripheral Arterial Disease คือ ภาวะการตกตะกอนของจุลินทรีย์หรือไขมันคอเลสเตอรอลที่ตกค้างในเส้นเลือด ถูกสะสมจนเกาะติดกับช่วงผนังเส้นเลือดส่วนปลายในบริเวณช่วงแขนและขาทั้งสองข้างหรือข้างในข้างหนึ่ง จนทำให้เกิดการขาดเลือดไปเลี้ยงส่วนแขนและขาและภาวะอุดตันในเส้นเลือด
สาเหตุและปัจจัยเสี่ยงของโรค
 
สาเหตุของการพบเจอโรคหลอดเลือดแดงส่วนปลายตีบ คือ ภาวะโรคแทรกซ้อนของผู้ป่วย เช่น โรคเบาหวาน โรคอ้วน และความดันในเลือดสูงกว่ามาตรฐานนั้น มีปริมาณไขมันเลวเยอะกว่าไขมันดี ทำให้พบ
ตรวจไขมันในเลือดสูง นำไปสู่โรคหลอดเลือดแดงอุดตันในเส้นเลือด ก่อให้เกิดปัจจัยเสี่ยงที่เลือดส่วนปลายตีบไม่เดินส่วนแขนและขา ทำให้เกิดอาการชา อัมพาตในที่สุด  
 
วิธีสังเกตอาการ
 
วิธีตรวจโรคหลอดเลือดแดงส่วนปลายตีบด้วยตนเอง สามารถสังเกตได้จากบริเวณช่วงมือและเท้ามีอาการชา หรืออ่อนเพลียกว่าปกติหรือไม่ ลักษณะสีของแขนมีผิวสีที่ซีดลง แขนขาข้างใดข้างหนึ่งอุณหภูมิเย็นกว่าปกติ และหากช่วงแขนหรือเท้าได้รับบาดเจ็บเป็นแผลฉกรรจ์ จะมีอาการหายช้ากว่าปกติ 
หากผู้ป่วยมีอาการหนึ่งในอาการดังกล่าวนี้แล้วทำการตรวจชีพจรแล้วไม่เสียงเต้นของเส้นเลือด อาจมีความเสี่ยงเป็นโรคหลอดเลือดแดงส่วนปลายตีบได้สูง ควรเข้ารับการตรวจ ABI เพื่อได้รับรักษากับแพทย์เฉพาะทางให้เร็วที่สุด
ABI (Ankle Brachial Index) คือ การตรวจหลอดเลือดแดงบริเวณส่วนปลายตีบส่วนเส้นเลือดใหญ่ที่ขาและแขนเพื่อวัดความดันโลหิต ด้วยการเจาะเลือดแล้วนำผลลัพธ์ทั้ง 2 ส่วนมาเปรียบเทียบกัน เพื่อนำผลชี้วัดของสัดส่วนนี้ไปวินิจฉัยอาการของหลอดเลือดตีบหรือไม่
ประโยชน์ของการตรวจ ABI มีดังนี้
	- เป็นผลวินิจฉัยให้ผู้ตรวจ ABI สามารถค้นหาโรคแทรกซ้อน และพฤติกรรมของผู้ป่วย ที่นำไปสู่ภาวะโรคหลอดเลือดแดงส่วนปลายตีบได้
 
	- เพื่อดูความหยืดหยุ่นของการเดินของเลือด มีภาวะติดขัดจากไขมันหรือจุลินทรีย์ตกค้างหรือไม่
 
	- การตรวจ ABI สามารถเป็นผลชี้วัดให้แพทย์เฉพาะทางเลือกวิธีรักษาโรคหลอดเลือดแดงส่วนปลายตีบได้ของผู้ป่วยแต่ละระดับได้อย่างถูกวิธี
 
บุคคลที่ควรได้รับการตรวจ ABI มีดังนี้
	- ผู้สูงอายุ 60 ปีขึ้นไป
 
	- ผู้ป่วยที่มีอาการมือและเท้าชาเป็นบางช่วง ลักษณะสีของผิวซีดกว่าอีกข้างปกติ 
 
	- ผู้ที่มีมวลดัชนีกายภาพ จากการคํานวณค่า BMI ที่สูงมากกว่า 25 เกินตามมาตรฐาน
 
	- ผู้ที่มีสารในเลือดเช่น โฮโมซีสทีน (Homocysteine) และ ไลโพโปรตีน (Lipoprotein) มีค่าสูงกว่าปกติ
 
	- ผู้ป่วยที่มีโรคประจำตัว เช่น โรคเบาหวาน ความดันโลหิตสูง โรคไขมันในเลือดสูง
 
	- บุคคลในครอบครัวมีประวัติเคยตรวจหัวใจ ผลการตรวจมีระบบการทำงานที่ไม่ปกติ เช่น เป็นโรคหลอดเลือดหัวใจและโรคหลอดเลือดสมองตีบมาก่อน
 
 
โดยทั่วไป การเตรียมตัวตรวจ ABI ผู้ป่วยสามารถทานอาหารครบ 3 มื้อและทำกิจกรรมในชีวิตประจำวันได้ตามปกติก่อนวันตรวจ หากมีโรคประจำตัวที่ส่งผลต่อความดันเลือดอย่าง โรคเบาหวาน ความดันในเส้นเลือดสูง โรคอ้วน หรือโรคไต สามารถทานยาประจำได้ เมื่อถึงวันนัดตรวจ ABI ให้ผู้ป่วยสวมใส่เสื้อที่โปร่งและสบายตัว เพื่อให้แพทย์สามารถเจาะเลือดได้สะดวก 
 
ขั้นตอนการตรวจ ABI มีดังนี้
1. ในวันตรวจ ABI ไม่ต้องงดอาหารใด ๆ หากมียาประจำตัว สามารถทานยาได้ตามปกติ
2. สวมใส่เสื้อผ้าที่สบายตัวในวันนัดตรวจ ABI เพื่อให้ทางแพทย์สามารถเจาะเลือดส่วนแขนหรือข้อขาที่มีภาวะโรคเส้นเลือดตีบได้สะดวก
3. หลังจากเจาะเลือดเสร็จเรียบร้อย แพทย์จะให้ผู้ป่วยพักผ่อนประมาณ 15-30 นาทีก่อนฟังผลตรวจ ABI 
4. หากมีอาการวินเวียนศีรษะ หน้ามืด หรือจะเป็นลม ควรบอกทางทีมแพทย์เพื่อรักษาผลข้างเคียงจากการตรวจ ABI ทันที
การแปรผล ABI หรือ  ABI index คือค่าปกติและค่าผิดปกติ ได้จากการนำค่า ABI index มาคำนวณหาสัดส่วนของค่าแปรผลเลือดจากเครื่อง ABI โดยใช้ความดันซิสโตลิก (Systolic) เป็นค่าตัวบนของแขน และวัดความดันไดแอสโตลิก(Diastolic)เป็นค่าตัวล่างของขา แล้วนำผลทั้งสองข้างมาเทียบค่าผลการตรวจ ABI อยู่ในเกณฑ์ระดับไหน 
ในการหา ABI index มีวิธีวัดดังตัวอย่างต่อไปนี้ เช่น ความดันแขนมีค่า 120 และขา 120 จึงเป็นสัดส่วนหาค่าดัชนี 120/120 = 1 
ดังนั้น สัดส่วนแปรผลเลือดมีผลลัพธ์เท่ากับ 1 ถือว่าอยู่ในเกณฑ์ปกติ
ผู้ป่วยสามารถนำผลตรวจ ABI จากการหาสัดส่วนแต่ละข้างในการแปรผลแต่ละเกณฑ์ดังต่อไปนี้
 
	- สัดส่วนของการวัดเส้นเลือดที่ข้อเท้า(Ankle ratio)และข้อแขน(Brachial ratio)ต้องอยู่ในเกณฑ์มากกว่า 0.90 อยู่ในเกณฑ์ปกติ
 
	- สัดส่วนมีค่าน้อยกว่า 0.90 ถือว่ามีการตีบในเส้นเลือดที่ขา
 
	- สัดส่วนมีค่าน้อยกว่า 0.6 มีการตีบของหลอดเลือดและมีอาการขาดเลือดที่ขา
 
	- สัดส่วนมีค่าน้อยกว่า 0.5 มีการตีบของหลอดเลือดที่ขาในหลายระดับดังต่อไปนี้
	
		- สัดส่วนมีค่าน้อยกว่า 0.3 มีการตีบของหลอดเลือดที่ขาขั้นรุนแรง ต้องทำการรักษาโดยด่วน
 
		- สัดส่วนมีค่าน้อยกว่า 0.26 มีอาการปวดขาจากอาการเส้นเลือดตีบ
 
		- สัดส่วนมีค่าน้อยกว่า 0.2 เซลล์ในเนื้อเยื่อบริเวณช่วงขาและกล้ามเนื้อมีการตายเนื่องจากเส้นเลือดตีบ ที่เกิดจากการขาดเลือดไปเลี้ยง
 
	
	 
เนื่องจากการตรวจ ABI เป็นการตรวจที่ต้องใช้วิธีการเจาะเลือดเพื่อนำไปตรวจ ดังนั้นการดูแลตัวเองหลังจากเข้ารับการตรวจ ABI ผู้ที่เข้ารับการตรวจจะต้อง
	- พักฟื้นประมาณ 15-30 นาที หลังจากนั้นสามารถทำกิจกรรมตามปกติได้
 
	- หากเฝ้าดูอาการหลังการตรวจแล้วพบว่ามีอาการอื่น ๆ นอกจากปวดเล็กน้อยบริเวณที่ตรวจ ให้รีบแจ้งแพทย์ให้ทราบ หรือหากผลตรวจมีความผิดปกติ ทางแพทย์อาจจะขอทำการตรวจเพิ่มเติมเพื่อวินิจฉัยอาการ
 
เมื่อผลตรวจ ABI ของผู้ป่วยมีเกณฑ์เข้าข่ายโรคหลอดเลือดแดงส่วนปลายตีบ สามารถแบ่งการรักษาได้ด้วย 2 วิธีการดังนี้
การใช้ยารักษา
ผู้ที่มีโรคประจำตัวเกี่ยวกับโรคเบาหวาน โรคอ้วน และโรคความดันในโลหิตสูง สามารถรับประทานยาควบคู่กับการรักษาโรคหลอดเลือดแดงส่วนปลายตีบด้วยกันได้
การผ่าตัดรักษา
- การผ่าตัดบายพาส (Coronary Artery Bypass Grafting: CABG)  คือ การผ่าตัดเส้นเลือดเลี้ยงหัวใจโดยใช้บอลลูนและขดลวดขยายเส้นทางของเลือดที่อุดตันโดยไขมันหรือจุลินทรีย์ เพื่อเพิ่มแรงดันหลอดเลือดส่วนของแขนและขาที่มีภาวะตีบตันหรืออุดตัน ในการส่งเสริมการไหลเวียนของเลือดที่ดีขึ้น
- การรักษาด้วยการฉีดยาละลายลิ่มเลือด (Tissue Plasminogen Activator : tPA)  คือการฉีดสารละลายลิ่มเลือดเข้าสู่หลอดเลือดแดงที่ถูกปิดกั้นโดยเม็ดเลือดที่แข็งและอุดกั้นเส้นทาง ให้ถูกละลายตัวแล้วสลายในที่สุด 
 

 
วิธีป้องกันโรคหลอดเลือดแดงส่วนปลายตีบ มีดังนี้
	- เลิกเสพสารสิ่งเสพติด เช่น การสูบบุหรี่ และการดื่มแอลกอฮอล์
 
	- ออกกำลังกายสม่ำเสมอ เพื่อลดค่า BMI ให้ต่ำลงอยู่ในเกณฑ์มาตรฐาน
 
	- หากมีอาการบาดเจ็บช่วงข้อเท้าและข้อแขนเป็นต้นไป ใช้ผ้าเช็ดให้แห้ง สวมใส่ถุงเท้าที่สะอาด แห้ง ไม่อับไม่ชื้น และสวมใส่รองเท้าที่พอดีกับขนาด เพื่อป้องกันรองเท้ากัดจนเกิดรอยแผลได้
 
	- นัดพบกับแพทย์เพื่อตรวจ ABI ทุก 6 เดือน
 
ผู้ที่มีภาวะความเสี่ยงต่อการเป็นภาวะโรคหลอดเลือดแดงส่วนปลายตีบไม่เดิน และต้องการหาสถานที่ตรวจรักษากับแพทย์ที่มีประสบการณ์ แต่ไม่ทราบจะหาสถานพยาบาลตรวจไขมันในเลือด และ
ความเข้มของเลือดบริเวณแขนและขา ที่ไหนดี ทางสถาบันรักษาโรคหลอดเลือดแขนและขาไม่เดิน โรงพยาบาลสมิติเวช ไชน่าทาวน์ มีแพ็กเกจตรวจสุขภาพประจำปี ตรวจสุขภาพก่อนแต่งงาน และโปรโมชันสำหรับการตรวจ ABI ราคาพิเศษให้กับลูกค้าดังนี้
 
	
		
			| 
			 โปรแกรมตรวจสุขภาพ 
			ประจำปี 
			  
			 | 
			
			 Basic  
			<30 ปี 
			  
			 | 
			
			 Advanced  
			30-40 ปี 
			  
			 | 
			
			 Executive  
			40-50 ปี 
			  
			 | 
			
			 Absolute  
			50 ปีขึ้นไป 
			  
			 | 
			
			 Longevity  
			60 ปีขึ้นไป 
			  
			 | 
		
	
	
	
	
		
			| อัตราค่าบริการปกติ | 
			6,485 | 
			ชาย 13,365 
			หญิง 14,965 | 
			ชาย 29,865 
			หญิง 35,290 | 
			ชาย 38,285 
			หญิง 47,030 | 
			ชาย 43,740 
			หญิง 54,085 | 
		
		
			| อัตราพิเศษ | 
			2,800 | 
			ชาย 8,000 
			หญิง 8,000 | 
			ชาย 13,500 
			หญิง 17,500 | 
			ชาย 17,700 
			หญิง 22,700 | 
			ชาย 20,000 
			หญิง 23,200 | 
		
		
			| ราคา Online และหลังไลน์ @samitivejchinatown ลด 10% | 
			2,520 | 
			ชาย 7,200 
			หญิง 7,200 | 
			ชาย 12,150 
			หญิง 15,750 | 
			ชาย 15,930 
			หญิง 20,700 | 
			ชาย 18,000 
			หญิง 21,200 | 
		
	
   
การตรวจ ABI เป็นการตรวจเช็คทางเดินเลือดบริเวณข้อแขนและข้อขาเป็นต้นไป ว่ามีภาวะการเดินเลือดที่ตีบตันจากปัจจัยใดบ้างไม่ว่าจะเป็นภาวะอายุมากขึ้น พันธุกรรม และพฤติกรรมของผู้ป่วย เพื่อหลีกเลี่ยงโรคแทรกซ้อนจากการเสื่อมสภาพการทำงานของการเดินเลือดช่วงแขนและขา
ทางแพทย์ขอแนะนำการ
ตรวจสุขภาพประจำปีของทางโรงพยาบาลสมิติเวช ไชน่าทาวน์ ภายใต้การปฎิบัติของแพทย์มืออาชีพ ที่มีแพคเกจตรวจค่า ABI ราคาย่อมเยาว์ และพร้อมรายงานผลตรวจค่า ABI แต่ละส่วนของช่วงแขนและขาได้ทันที โดยติดต่อสอบถามได้ที่ Line 
@samitivejchinatown หรือเบอร์ 02-118-7893 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง
 

 
 เอกสารอ้างอิง :
Mayo Clinic Staff (2021, Feb 23). 12 Ankle-brachial index
mayoclinic
https://www.mayoclinic.org/tests-procedures/ankle-brachial-index/about/pac-20392934
Felson,S. (2021, Oct 31). 12 Ankle-Brachial Index (ABI) Test
webmd
https://www.webmd.com/heart-disease/ankle-brachial-test