บทความสุขภาพ

คํานวณ BMI ผู้หญิง ประเมินรูปร่างและเช็กความเสี่ยงโรคแทรกซ้อน

บทความโดย: วันที่อัพเดท: 13 ธันวาคม 2568

คํานวณ BMI ผู้หญิง

“การคำนวณค่า BMI” เป็นวิธีการประเมินลักษณะร่างกายของมนุษย์ในยุคปัจจุบันที่ได้รับการยอมรับในระดับสากล โดยทุกสถาบันการรักษา ความงาม หรือฟิตเนส และสถาบันอื่น ๆ ต่างใช้สูตรคำนวณ BMI เพื่อหาค่าดัชนีมวลกายของผู้ใช้บริการ มาเป็นปัจจัยหลักในการดำเนินธุรกิจต่อไป 

ดังนั้น ทางโรงพยาบาลสมิติเวช ไชน่าทาวน์ จะพาผู้อ่านทำความเข้าใจเรื่องการคำนวณค่า BMI ที่ดูเป็นการคาดคะเนผลลัพธ์ BMI ที่ดูซับซ้อน ให้เป็นเรื่องที่เข้าใจง่าย และคุณสามารถนำตัวคำนวณ BMI สูตรนี้ ไปใช้งานได้จริง ซึ่งเนื้อหาโดยรวมเป็นอย่างไรบ้าง ไปเรียนรู้พร้อมกันได้ในบทความนี้


KEY TAKEAWAY

  • BMI คือค่าดัชนีมวลกายที่ใช้ประเมินปริมาณไขมันในร่างกาย สูตรการหาค่าดัชนีมวลกายคือ น้ำหนักตัว [กิโลกรัม] ÷ ส่วนสูง [เมตร] ยกกำลังสอง
  • ค่าดัชนีมวลกาย ช่วยระบุภาวะน้ำหนักเกิน น้ำหนักขาด หรือความเสี่ยงโรคต่าง ๆ
  • ค่า BMI ปกติของคนไทยควรอยู่ในช่วง 18.5 - 22.9 ซึ่งมีโอกาสเสี่ยงโรคแทรกซ้อนต่ำที่สุด
  • ผู้หญิงมักมีไขมันสะสมมากกว่าผู้ชาย จึงควรวัดค่า BMI เป็นประจำ
  • หากค่าดัชนีมวลกายสูง ควรปรับพฤติกรรมการกิน ออกกำลังกาย และตรวจสุขภาพสม่ำเสมอ

สารบัญบทความ


สูตรคำนวณ BMI ผู้หญิงและผู้ชาย

สูตรคำนวณ BMI

วิธีคำนวณ BMI ในการหาค่าดัชนีมวลกาย = น้ำหนักตัว [กิโลกรัม] ÷ ส่วนสูง [เมตร] ยกกำลังสอง

ยกตัวอย่างเช่น ผู้หญิง น้ำหนัก 50 กิโลกรัม ส่วนสูง 160 เซนติเมตร 

ดัชนีมวลกาย (BMI) = 50 ÷ (1.60 * 1.60)

ดัชนีมวลกาย (BMI) = 50 ÷ 2.56 

ดัชนีมวลกาย (BMI) = 19.5 

เมื่อได้คำตอบค่าคำนวณดัชนีมวลกายแล้ว ให้นำตัวเลขนี้ไปเปรียบเทียบตารางเกณฑ์ BMI ตามเพศสภาพของตัวเอง


ตารางเปรียบเทียบค่า BMI

การแปรผล

ผลคำนวณดัชนีมวลกาย (BMI)

ภาวะโรคแทรกซ้อน

น้ำหนักต่ำกว่าเกณฑ์

น้อยกว่า 18.5 ลงไป

มีความเสี่ยงเกิดโรคขาดสารอาหาร

น้ำหนักสมส่วน

18.5 - 22.9

โอกาสการเกิดโรคแทรกซ้อน น้อยที่สุด

น้ำหนักเกินมาตรฐาน

23.0 - 24.9

ภาวะน้ำหนักเกินระยะเริ่มต้น เริ่มมีโรคแทรกซ้อนเล็กน้อย

อ้วน

25.0 - 29.9

ภาวะน้ำหนักเกินมาก มีโรคแทรกซ้อนในระยะอ้วนเริ่มต้น

อ้วนมาก

มากกว่า 30.0 ขึ้นไป

ภาวะน้ำหนักเกินมากที่สุดโอกาสการเกิดโรคแทรกซ้อนอย่าง โรคอ้วน

ระดับ < 18.5 สภาวะ “น้ำหนักต่ำกว่าเกณฑ์”

บุคคลที่มีค่า BMI ในเกณฑ์ระดับน้ำหนักต่ำกว่ามาตรฐาน มีภาวะความเสี่ยงสูงที่ร่างกายขาดสารอาหารในการหล่อเลี้ยงภายในร่างกายได้ไม่เพียงพอ ส่งผลกระทบให้ร่างกายอ่อนเพลียง่าย ภูมิคุ้มกันพกบร่อง การออกกำลังกายควบคู่กับการรับประทานอาหารที่มีส่วนประกอบโปรตีนสูง จะช่วยทำให้กล้ามเนื้อแข็งแรงและมีสารอาหารมากพอไปซ่อมแซมการทำงานของอวัยวะภายในได้อย่างเพียงพอ

ระดับ 18.5 - 22.9 สภาวะ “น้ำหนักสมส่วน”

บุคคลที่ค่า BMI อยู่ในเกณฑ์ระดับน้ำหนักตามมาตรฐาน เป็นกลุ่มบุคคลที่มีภาวะเสี่ยงต่อโรคแทรกซ้อนจากโรคอ้วนได้น้อยที่สุด ควรรักษาความสมดลของค่า BMI ระดับนี้ไว้อย่างสม่ำเสมอ และหมั่นตรวจเช็กการคำนวณค่า BMI จากการตรวจสุขภาพประจำปี เพื่อเป็นผลชี้วัดในการตรวจเช็กมวลร่างกายอยู่เสมอ

ระดับ 23.0 - 24.9 สภาวะ “น้ำหนักเกินมาตรฐาน”

บุคคลที่มีค่า BMI อยู่ในเกณฑ์ระดับเกินตามมาตรฐาน มีภาวะความเสี่ยงที่เกิดโรคแทรกซ้อนที่เกิดจากโรคอ้วนได้ ควรควบคุมปริมาณไขมันในร่างกายตัวเอง ด้วยการเลือกทานอาหารที่มีโปรตีนสูง หมั่นออกกำลังกาย และพักผ่อนให้เพียงพอตลอดกิจวัตรประจำวัน เพื่อลดระดับไขมันให้กลับมาอยู่ในเกณฑ์มาตรฐาน

ระดับ 25.0 - 29.9 สภาวะ “อ้วน”

บุคคลที่คํานวณค่า BMI แล้วอยู่ในเกณฑ์ระดับเกินตามมาตรฐานมาก มีภาวะความเสี่ยงที่เกิดโรคแทรกซ้อนที่เกิดจากโรคอ้วนได้สูง ควรควบคุมปริมาณไขมันในร่างกายตัวเองแบบเร่งด่วน ด้วยการปรับเปลี่ยนวิถีการกินที่เน้นสุขภาพให้มากขึ้น พร้อมออกกำลังกาย และงดทานของจุบจิบในยามท้องว่าง แล้วดื่มน้ำอย่างต่ำ 8 แก้วต่อวัน พร้อมกับพักผ่อนให้เพียงพอ และติดตามผล BMI ตลอดในช่วงควบคุมน้ำหนัก

ระดับ 30.0 > สภาวะ “อ้วนมาก”

บุคคลที่มีค่า BMI อยู่ในเกณฑ์ระดับสูงเกินตามมาตรฐานมาก มีภาวะความเสี่ยงที่เกิดโรคแทรกซ้อนที่เกิดจากโรคอ้วนได้สูงที่สุด ควรทำการนัดพบแพทย์เพื่อรับยาในการควบคุมปริมาณน้ำตาลในเลือด พร้อมปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการทานให้เป็นอาหารสุขภาพ งดทานอาหารที่เพิ่มมวลไขมันแก่ร่างกาย และหมั่นออกกำลังกายเป็นกิจวัตรประจำวันอย่างสม่ำเสมอ พักผ่อนให้เพียงพอ แล้วดื่มน้ำอย่างต่ำ 10-12 แก้วต่อวัน และติดตามผล BMI ตลอดในช่วงควบคุมน้ำหนัก


ค่าดัชนีมวลกาย (BMI) คืออะไร?

ค่าดัชนีมวลกาย (BMI : Body Mass Index) เป็นข้อมูลดัชนีทางคณิตศาสตร์ ที่ใช้การวัดจากน้ำหนัก (Weight) และส่วนสูง (Height) มาคำนวณค่า BMI เพื่อหาค่าผลลัพธ์ของปริมาณไขมันทั้งหมด เมื่อหาคำนวณมวลร่างกายเรียบร้อย ทางแพทย์จะนำคำตอบนี้ในการประเมินสภาวะลักษณะร่างกายของผู้ใช้บริการในปัจจุบัน ว่าเกณฑ์น้ำหนักของคุณถูกประเมินอยู่ในระยะร่างกายรูปแบบไหน


ข้อจำกัดของค่า BMI

เนื่องจากการคำนวณดัชนีมวลกายเพื่อหาความสัมพันธ์เกี่ยวกับปริมาณไขมันในมวลร่างกายของผู้ใช้บริการนั้นมีข้อจำกัดทางด้านเพศ อายุ รวมถึงปริมาณกล้ามเนื้อของบุคคลบางกลุ่ม ที่ทำให้ผลการคำนวณค่า BMI มีผลที่แตกต่างออกไป ดังต่อไปนี้

  1. การคำนวณ BMI ผู้หญิง มีแนวโน้มที่ปริมาณไขมันในร่างกายสูงกว่าผู้ชาย เนื่องจากฮอร์โมนเพศหญิงช่วยเร่งสารอาหารให้เป็นไขมันได้ง่ายกว่าผู้ชาย ซึ่งทำให้การคำนวณดัชนีมวลกายผู้ชายในการตรวจดูไขมัน พบแค่ 15% ในขณะผู้หญิงพบถึง 25% ของมวลไขมันทั้งหมด
  2. ผู้ที่อายุมากกว่า มีโอกาสสูงที่ปริมาณไขมันสะสมมากกว่าผู้ที่อายุน้อยกว่า
  3. นักกีฬาที่ได้รับการฝึกฝนร่างกายทางกายภาพสูง จะมีผลการคำนวณค่า BMI ที่มีมวลกล้ามเนื้อสูงกว่าปริมาณไขมันในองค์ประกอบร่างกายมากกว่าคนทั่วไป

ความเสี่ยงเมื่อมีค่า BMI สูงเกินไป

คํานวณ BMI สูตร

โดยทั่วไป ความเสี่ยงของค่าเฉลี่ยจากการคำนวณ BMI ผู้หญิงที่สูงเกินไป มีปัจจัยการเกิดปัญหาโรคอ้วนต่าง ๆ ดังต่อไปนี้

  • โรคความดันโลหิตสูง
  • โรคไขมันในเลือดสูง
  • โรคตับ นิ่วในถุงน้ำดี
  • โรคเบาหวาน
  • โรคหลอดเลือดสมอง
  • โรคนอนหลับแล้วหยุดหายใจ

วิธีควบคุมค่า BMI ให้อยู่ในเกณฑ์เหมาะสม

สูตรคํานวณ BMI

การควบคุมค่าดัชนีมวลกายให้อยู่ในระดับที่เหมาะสมเป็นสิ่งสำคัญเพื่อลดความเสี่ยงด้านสุขภาพ ซึ่งสามารถทำได้หลายวิธีดังนี้

  • การออกกำลังกาย : ออกกำลังกายสม่ำเสมอช่วยลดไขมันส่วนเกิน และปรับดัชนีมวลกายผู้หญิง ให้อยู่ในช่วงเหมาะสม
  • เลือกทานอาหารที่ดีต่อสุขภาพ : หากคํานวณ BMI ผู้หญิงแล้วเกินเกณฑ์ ควรเน้นการบริโภคผัก ผลไม้ ธัญพืชไม่ขัดสี และโปรตีนไม่ติดมัน ลดอาหารแปรรูป น้ำตาล และไขมันอิ่มตัว
  • พักผ่อนให้เพียงพอ : การนอนหลับ 7-9 ชั่วโมงต่อคืน ช่วยควบคุมฮอร์โมนความหิวและความอิ่ม ทำให้การควบคุมน้ำหนักและค่า BMI มีประสิทธิภาพมากขึ้น
  • ปากกาลดน้ำหนัก : เป็นทางเลือกสำหรับผู้ที่มีภาวะน้ำหนักเกินและโรคอ้วน จะช่วยลดความอยากอาหารและปรับพฤติกรรมการกินได้ดี แต่ควรใช้ภายใต้การดูแลของแพทย์เท่านั้น 

ปากกาลดน้ำหนัก คืออะไร?

ปากกาลดน้ำหนักคืออุปกรณ์ที่บรรจุตัวยาฉีด Liraglutide ซึ่งทำงานคล้ายฮอร์โมน GLP-1 ช่วยลดความหิวและควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด ทำให้รับประทานอาหารน้อยลง ลดการกินจุกจิก เหมาะสำหรับคนที่คำนวณ BMI ผู้หญิงแล้วเกิน 30 หรือคํานวณค่า BMI เกิน 27 ร่วมกับมีปัญหาสุขภาพจากความอ้วน โดยตัวยาชนิดนี้เป็นทางเลือกในการควบคุมน้ำหนักอย่างปลอดภัยและยั่งยืน เมื่อใช้ควบคู่กับการควบคุมอาหาร ออกกำลังกายสม่ำเสมอ และอยู่ภายใต้การดูแลจากแพทย์อย่างใกล้ชิด


ปากกาลดน้ำหนัก เหมาะกับใคร

  1. ผู้ที่มีน้ำหนักเกิน หรือภาวะโรคอ้วน
  2. ผู้มีปัญหาสุขภาพที่เกิดจากน้ำหนักเกินมาตรฐาน เช่น เบาหวาน ความดันโลหิตสูง ไขมันในเลือดสูง หรือมีปัญหาเกี่ยวกับการหายใจขณะนอนหลับ เป็นต้น
  3. ผู้ที่ต้องการลดน้ำหนักแต่ไม่อยากผ่าตัด
  4. ผู้ที่ต้องการปรับพฤติกรรมการรับประทานอาหาร

ผลลัพธ์หลังการใช้ปากกาลดน้ำหนัก

หลังการใช้ยาในช่วงวันแรก ๆ คุณจะเริ่มรู้สึกอยากอาหารน้อยลง อิ่มไวและอิ่มนานขึ้น เมื่อคุมหิวได้นานขึ้นก็จะส่งผลให้ทานอาหารได้น้อยลงอย่างต่อเนื่อง และมีผลให้น้ำหนักลดลงตามด้วย

โปรแกรม

ราคา (บาท)

ดูแลโดยแพทย์เฉพาะทาง

1. ปากกาลดน้ำหนัก 3 ด้าม พร้อมปรึกษาแพทย์เฉพาะทาง 1 ครั้ง

11,500

พญ.อิสรีย์ หาญอุทัยรัศมี

ออกตรวจทุกวันพุธ

เวลา 16.00-18.00 น.

2. ปากกาลดน้ำหนัก 5 ด้าม พร้อมปรึกษาแพทย์เฉพาะทาง 1 ครั้ง

18,500

พญ.สุขุมาลย์ สว่างวารี

ออกตรวจทุกวันจันทร์
เวลา 09.00-15.00 น.

ต้องการนัดหมายปรึกษาแพทย์ โทร 02-1187922

เงื่อนไขการรับบริการ

  1. ราคาดังกล่าว รวมค่าแพทย์ปรึกษาในครั้งแรก และค่าบริการโรงพยาบาลแล้ว/li>
  2. ราคาดังกล่าว ไม่รวมค่าตรวจสุขภาพก่อนเข้ารับคำปรึกษา
  3. ราคาดังกล่าว ไม่รวมค่าแพทย์ติดตามอาการ
  4. โปรแกรมนี้ไม่สามารถใช้ร่วมกับส่วนลดจากไลน์ หรือส่วนลดอื่น ๆ ได้อีก
  5. โปรแกรมดังกล่าว สามารถซื้อและใช้บริการได้ตั้งแต่วันนี้ - 31 ธันวาคม 2565 เท่านั้น
  6. สามารถใช้บริการได้ที่ โรงพยาบาลสมิติเวช ไชน่าทาวน์ ถ.เยาวราช เท่านั้น
  7. ราคาดังกล่าวเฉพาะคนไทย และชาวต่างชาติที่อาศัยอยู่ในประเทศไทยเท่านั้น

โปรแกรม

ราคา (บาท)

ช่องทางการจอง

1. โปรแกรมตรวจสุขภาพก่อนใช้ปากกาลดน้ำหนัก (รายละเอียด คลิก)

2,800

จองผ่านเว็บ

เงื่อนไขการรับบริการ

  1. ราคาดังกล่าว รวมค่าแพทย์ และค่าบริการโรงพยาบาลแล้ว
  2. โปรแกรมนี้ไม่สามารถใช้ร่วมกับส่วนลดจากไลน์ หรือส่วนลดอื่น ๆ ได้อีก
  3. โปรแกรมดังกล่าว สามารถซื้อและใช้บริการได้ตั้งแต่วันนี้ - 31 ธันวาคม 2565 เท่านั้น
  4. สามารถใช้บริการได้ที่ โรงพยาบาลสมิติเวช ไชน่าทาวน์ ถ.เยาวราช เท่านั้น
  5. ราคาดังกล่าวเฉพาะคนไทย และชาวต่างชาติที่อาศัยอยู่ในประเทศไทยเท่านั้น

คำถามที่พบบ่อย

ค่า BMI ปกติควรอยู่ที่เท่าไหร่?

ค่า BMI ปกติสำหรับคนไทยจะอยู่ที่ 18.5-22.9 หากต่ำกว่านี้จะผอมเกินไป เสี่ยงขาดสารอาหาร แต่ถ้าสูงกว่านี้คือน้ำหนักเกินหรืออ้วน ควรควบคุมอาหาร หมั่นออกกำลังกาย และตรวจสุขภาพเป็นประจำ

โรงพยาบาลมีการตรวจ BMI อย่างไร?

การตรวจดัชนีมวลกายจะใช้เครื่องวัดน้ำหนัก วัดส่วนสูง และเครื่องประเมินมวลร่างกายอัตโนมัติ เพื่อหาค่า BMI ที่แม่นยำและทราบเปอร์เซ็นต์ไขมันในร่างกายทันที


คํานวณ BMI ผู้หญิง วิธีเช็กปริมาณไขมันสะสม ประเมินความเสี่ยงโรค

การคํานวณ BMI ผู้หญิง ถือเป็นพื้นฐานสำคัญในการดูภาพรวมของสุขภาพ ช่วยประเมินปริมาณไขมันในร่างกายและความเสี่ยงของโรคต่าง ๆ เช่น เบาหวาน ความดันโลหิตสูง หรือภาวะอ้วน ซึ่งผู้หญิงมักมีแนวโน้มไขมันสะสมมากกว่าผู้ชาย จึงควรคํานวณค่า BMI และตรวจสอบผลด้วยตารางเกณฑ์อย่างสม่ำเสมอ เพื่อควบคุมน้ำหนักและรักษาสุขภาพให้อยู่ในภาวะที่เหมาะสม

หากต้องการตรวจคํานวณ BMI ผู้หญิงแบบละเอียด พร้อมประเมินสุขภาพโดยทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ โรงพยาบาลสมิติเวช ไชน่าทาวน์ มีบริการตรวจสุขภาพประจำปี ที่มาพร้อมอุปกรณ์ทันสมัยสำหรับวัดค่า BMI และวิเคราะห์องค์ประกอบร่างกายอย่างแม่นยำ สามารถวัดผลได้ทันที ไม่ต้องเสียเวลารอนาน 

ติดต่อโรงพยาบาลสมิติเวช ไชน่าทาวน์ เพื่อรับคำแนะนำด้านสุขภาพได้ที่


Reference

Calculate your body mass index (BMI) for adults. (2023, November 28). NHS. https://www.nhs.uk/health-assessment-tools/calculate-your-body-mass-index/calculate-bmi-for-adults

What's your body mass index (BMI)?. (2025, September 15). Heart Foundation. https://www.heartfoundation.org.au/bmi-calculator

บทความและสุขภาพอื่นที่น่าสนใจ