ปวดเข่าห้ามกินอะไร? พาส่องอาหารที่สุขภาพเข่าไม่ปลื้ม
ปวดเข่าห้ามกินอะไร? พาส่องอาหารที่สุขภาพเข่าไม่ปลื้ม
อาการปวดเข่าเกิดได้จากหลายสาเหตุ แต่ในวัย 50 ปีขึ้นไป อาจเป็นสัญญาณบ่งบอกถึงโรคข้อเข่าเสื่อม แม้อาการเบื้องต้นจะไม่รุนแรงแต่หากปล่อยทิ้งไว้อาจทำให้อาการทรุดและรุนแรงขึ้นตามลำดับ รบกวนการใช้ชีวิตประจำวันได้
ดังนั้นผู้ที่มีอาการปวดข้อเข่าติดต่อกันเป็นระยะเวลานานควรสังเกตอาการ และไปโรงพยาบาลในกรณีที่อาการเจ็บปวดไม่มีท่าทีจะดีขึ้น เพื่อให้แพทย์วินิจฉัยและหาหนทางการรักษาต่อไปให้ทันท่วงที
สารบัญบทความ
โรคข้อเข่าเสื่อม (Knee Osteoarthritis) คืออะไร?
อาการข้อเข่าเสื่อมที่ควรพบแพทย์
โรคข้อเข่าเสื่อม (Knee Osteoarthritis) คือ การที่กระดูกอ่อนผิวข้อเสื่อมในด้านของรูปร่างและโครงสร้าง ส่งผลต่อการทำงานของกระดูกข้อต่อและกระดูกบริเวณใกล้ข้อ ซึ่งอาการเหล่านี้ไม่สามารถกลับสู่สภาพเดิมได้ และอาจเสื่อมสภาพ อาการรุนแรงกว่าเดิมตามลำดับ
อาการปวดมักสัมพันธ์กับอิริยาบถที่ส่งแรงกดทับข้อเข่า เช่น การนั่งงอเข่า การย่อตัว การเดินเป็นระยะเวลานาน การกระโดด หากปล่อยไว้โดนไม่มีการบรรเทาใดใด อาจทำให้อาการทรุดและเป็นอุปสรรคต่อการใช้ชีวิตได้ เช่น เข่าโก่ง เดินลำบาก ไม่สามารถงอหรือยืดเข่าได้สุด
โรคข้อเข่าเสื่อมมักเกิดจากการเสื่อมสภาพของข้อเข่าที่ถูกใช้งานเป็นระยะเวลานาน จนทำให้บริเวณนั้นเกิดการสึกหรอ เมื่อไม่สามารถสร้างขึ้นมาทดแทนใหม่ได้ จึงส่งผลให้โครงสร้างการทำงานของกระดูก รวมไปจนถึงกระดูกใกล้ๆ ข้อเข่าเปลี่ยนแปลงไป จนความเสื่อมทวีคูณความรุนแรงขึ้น โดยแบ่งสาเหตุหลักออกเป็น 2 ประเภท
1. การเสื่อมแบบปฐมภูมิเป็นความเสื่อมแบบไม่รู้สาเหตุ เกิดจากการเสื่อมของกระดูกอ่อนตามวัย โดยมักจะเริ่มพบโรคข้อเข่าเสื่อมในผู้สูงอายุในช่วงอายุ 40 ปีขึ้นไป นอกจากอายุที่เพิ่มขึ้นแล้วก็มีปัจจัยอื่นที่อาจเร่งให้กระดูกข้อเข่าเสื่อมเร็วขึ้นได้
2. ความเสื่อมแบบทุติยภูมิเป็นความเสื่อมแบบรู้สาเหตุเกิดจากสาเหตุอื่น ๆ เช่น อุบัติเหตุ หรือ อาการบาดเจ็บที่ข้อต่อ เส้นเอ็น เอ็นเข่าอักเสบ จากกีฬาหรือการทำงาน โรคข้ออักเสบรูมาตอยด์ โรคเก๊าท์ ข้ออักเสบติดเชื้อ กระดูกรอบหัวเข่าแตกหัก การติดเชื้อ โรคของต่อมไร้ท่อ ฯลฯ
>> อยากรู้เสียงในหัวเข่าอันตรายไหม อ่านเพิ่มเติมได้ที่ "หัวเข่ามีเสียงกรอบแกรบ"
โดยปกติร่างกายของเราจะส่งสัญญาณเตือนถึงความผิดปกติที่เกิดขึ้นซึ่งจะมีระดับความรุนแรงของอาการหลายระยะ ได้แก่…
สำหรับผู้ที่ทีอาการปวดเข่า เข่าบวม อาจจะต้องหลีกเลี่ยงอาหารและเครื่องดื่มบางประเภท โดยสามารถดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ ปวดเข่าห้ามกินอะไร เพิ่มเติมได้ที่นี่
หากมีอาการปวดเป็นๆ หายๆ รับประทานยาแก้ปวดแล้วก็ไม่ดีขึ้นเป็นระยะเวลา 6 เดือนขึ้นไป ควรเข้าพบแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเพื่อวินิจฉัย และรับการรักษาให้รวดเร็วและเหมาะสมที่สุดเพื่อป้องการอาการรุนแรงในอนาคต
แพทย์จะทำการตรวจประเมิน รวบรวมข้อมูล เพื่อนำมาวิเคราะห์และวินิจฉัยแยกโรค โดยแนวทางการวินิจฉัยโรคข้อเข่าเสื่อม มีดังนี้
1. การออกกำลังกาย การออกกำลังกายช่วยเพิ่มความแข็งแรงให้กับกล้ามเนื้อต้นขาและบริเวณรอบข้อเข่า ทำให้พยุงข้อเข่าได้ดีขึ้น ถ่ายเทน้ำหนักไปที่กล้ามเนื้อได้ดี ทำให้ข้อเข่าไม่ต้องรับน้ำหนักมากจนเกินไป
2. การรักษาโดยการใช้ยา ใช้ยาแก้ปวดเข่าเพื่อลดอาการปวดข้อ ช่วยในการใช้ชีวิตประจำวัน อาจเป็นยาแบบรับประทานหรือฉีดก็ได้
3. การทำกายภาพบำบัด ช่วยบรรเทาอาการปวดบริเวณข้อ เช่น การใช้เลเซอร์รักษาและฟื้นฟูสมรรถภาพของร่างกายผู้ป่วยช่วงก่อนและหลังการผ่าตัด
4. การรักษาทางชีวภาพ (Biological Therapy) เป็นวิธีการรักษาอาการผิดปกติของกระดูกอ่อนและน้ำเลี้ยงข้อเข่า โดยฉีดน้ำเลี้ยงข้อเข่า (Hyaluronic Acid) หรือ สารสกัดจากเลือดที่มีความเข้มข้นของเกล็ดเลือดสูง กว่าปกติของผู้ป่วย (Platelet Rich Plasma หรือ PRP) เพื่อบรรเทาอาการปวด ลดอาการฝืดตึงของข้อเข่า
5. การรักษาด้วยวิธีการธรรมชาติโดยการใช้ สมุนไพรแก้ปวดเข่า เช่น เถาวัลย์เปรียง ขิง และ เพชรสังฆาต เป็นต้น
6. การผ่าตัด สำหรับผู้ที่มีอาการรุนแรงมาก แพทย์จะพิจารณารักษาด้วยการผ่าตัด ซึ่งมีอยู่ 2 ประเภทในปัจจุบัน
ศูนย์ผ่าตัดข้อเข่าเทียมโรงพยาบาลสมิติเวช ไชน่าทาวน์ เป็นศูนย์การแพทย์เฉพาะทางโรคกระดูกและข้อ มีทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญระดับสูงในการรักษาผู้ป่วย ครอบคลุมทั้งดูแลช่วงข้อเข่า ข้อสะโพก ข้อไหล่ ข้อศอก ตั้งแต่การตรวจวินิจฉัยตลอดจนถึงการดูแลรักษาโดยการใช้ยา การทำกายภาพบำบัด รวมถึงการผ่าตัดรักษาโดยทีมแพทย์ที่มีความเชี่ยวชาญเป็นพิเศษ
โรคข้อเข่าเสื่อมเป็นโรคที่อาการในระยะแรกไม่รุนแรงมากสามารถป้องกันให้อาการไม่รุนแรงกว่าเดิมได้หากดูแลรักษาสุขภาพและปรับพฤติกรรมเสี่ยงที่ส่งผลต่อแรงกดข้อเข่าได้
หากมีอาการที่คล้ายกับโรคข้อเข่าเสื่อม สามารถประเมินอาการเบื้องต้นเองได้ที่บ้าน และเข้าพบแพทย์เมื่ออาการไม่ดีขึ้นเพื่อให้แพทย์วินิจฉัยและหาหนทางการรักษา ยับยั้งการบาดเจ็บที่อาจเกิดขึ้นบริเวณข้อต่อได้อย่างทันท่วงที หากต้องการสอบถามเพิ่มเติมหรือเข้ารับการปรึกษาแพทย์ สามารถติดต่อทางโรงพยาบาลได้ที่เบอร์โทร 02-118-7893 ตลอด 24 ชั่วโมง หรือแอดไลน์โรงพยาบาล Line: @samitivejchinatown
สมิติเวช ไชน่าทาวน์..มั่นใจมีคุณหมอเป็นเพื่อนบ้าน
สนใจปรึกษา ศ.นพ.กีรติ เจริญชลวานิช รักษาข้อเข่าเสื่อมกว่า 30 ปี ด้วยประสบการณ์การรักษาผ่าตัดเปลี่ยนเข่ากว่า 10,000 เคส
เราใช้คุกกี้เพื่อเพิ่มประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ แสดงเนื้อหาให้ตรงกับความสนใจ รวมถึงเพื่อวิเคราะห์การเข้าใช้งานเว็บไซต์และทำความเข้าใจว่าผู้ใช้งานมาจากที่ใด คุณสามารถเลือกตั้งค่าความยินยอมการใช้คุกกี้ได้ นโยบายความเป็นส่วนตัว (Privacy Policy)