บทความสุขภาพ

เข่าบวมน้ำ สัญญาณเตือนปัญหาข้อเข่าที่ไม่ควรมองข้าม

บทความโดย: seoteam seoteam วันที่อัพเดท: 25 เมษายน 2568

เข่าบวมน้ำ

 

เคยไหมที่เจอกับอาการปวดเข่า เข่าบวมอย่างไม่คาดคิด หรือรู้สึกหัวเข่าบวมตึงจนเคลื่อนไหวได้ไม่สะดวก? ความรู้สึกเจ็บข้อเข่าเหล่านี้เป็นประสบการณ์ที่ไม่พึงประสงค์และสร้างความกังวลใจให้ใครหลายคน โดยเฉพาะเมื่ออาการปรากฏชัดเจนขึ้น มันอาจเป็นมากกว่าแค่ความรู้สึกไม่สบายตัวชั่วคราว แต่เป็นสัญญาณเตือนจากร่างกายว่าข้อต่อที่สำคัญอย่างข้อเข่ากำลังต้องการความสนใจและการดูแลเป็นพิเศษ ก่อนที่เราจะไปลงลึกถึงสาเหตุและวิธีจัดการ มาทำความเข้าใจกันก่อนว่า ทำไมสัญญาณเตือนเหล่านี้จึงไม่ควรมองข้าม


สารบัญบทความ


เข่าบวมน้ำ คืออะไร?

อาการเข่าบวมน้ำ

เข่าบวมน้ำ (Knee Effusion) คือ ภาวะที่มีการสะสมของสารน้ำผิดปกติภายในช่องข้อเข่า ทำให้เกิดอาการบวมรอบหัวเข่า จนบางครั้งอาจสังเกตเห็นได้ด้วยตาเปล่า โดยเฉพาะเมื่อเทียบกับเข่าอีกข้างหนึ่ง ภาวะนี้ไม่ได้เป็นโรคในตัวเอง แต่เป็นอาการแสดงของความผิดปกติที่เกิดขึ้นกับโครงสร้างของข้อเข่า 

อาการที่พบบ่อยคืองอเข่าแล้วเจ็บ ตึงบริเวณหัวเข่า และบางรายอาจหัวเข่าบวมข้างเดียว ซึ่งมักเป็นสัญญาณบ่งชี้ว่ามีการบาดเจ็บหรือความผิดปกติเฉพาะที่ของข้อเข่าข้างนั้น โดยน้ำในเข่าที่เพิ่มขึ้นเกิดจากการที่เยื่อหุ้มข้อสร้างสารน้ำมากขึ้นเพื่อตอบสนองการอักเสบ การบาดเจ็บ หรือความเสื่อมของข้อเข่า

แม้ว่าระยะแรกอาการเข่าบวมน้ำอาจไม่รุนแรง แต่ถ้าปล่อยไว้โดยไม่ได้รับการรักษาที่เหมาะสม ภาวะเข่าบวมน้ำอาจทำให้การเคลื่อนไหวข้อเข่าลดลง กล้ามเนื้อรอบข้อเข่าอ่อนแรง และอาจนำไปสู่ภาวะแทรกซ้อน เช่น ข้อเข่าเสื่อมเร็วขึ้นหรือการติดเชื้อในข้อ


เข่าบวมน้ำมีอาการเป็นอย่างไร?

เข่าบวมน้ำเป็นสัญญาณเตือนสำคัญที่ร่างกายบอกให้รู้ว่ามีความผิดปกติในโครงสร้างข้อเข่า โดยคนที่มีภาวะนี้อาจมีอาการได้หลายรูปแบบ ดังนี้

  • อาการปวดมากขึ้นเมื่อใช้บันได : การขึ้นหรือลงบันไดมักทำให้ปวดรุนแรงขึ้น เพราะเป็นกิจกรรมที่มีการกดทับและเคลื่อนไหวข้อเข่ามากกว่าปกติ
  • ความเจ็บปวดที่ต่อเนื่อง : ผู้ป่วยมักปวดเข่าแบบเรื้อรัง ไม่หายไปเอง และมักจะเจ็บเข่าเวลางอหรือพยายามเหยียดข้อเข่าให้ตรง
  • อาการรบกวนการนอน : ความเจ็บปวดอาจรุนแรงจนส่งผลต่อคุณภาพการนอน ทำให้ผู้ป่วยนอนไม่หลับหรือตื่นกลางดึก
  • ลักษณะทางกายภาพที่ผิดปกติ : สังเกตเห็นบริเวณรอบข้อเข่าบวมแดง ในบางรายอาจเข่าบวมข้างเดียว
  • อาการคล้ายไข้ : อาจมีอาการคล้ายเป็นไข้อ่อน ๆ ซึ่งเป็นการตอบสนองของระบบภูมิคุ้มกันต่อการอักเสบ
  • ข้อจำกัดในการเคลื่อนไหว : ไม่สามารถยืดหรืองอข้อเข่าได้อย่างปกติ หรือไม่สามารถเหยียดขาให้ตรงได้
  • ความร้อนผิดปกติ : เมื่อจับที่ข้อเข่าที่มีปัญหาจะรู้สึกว่ามีอุณหภูมิสูงกว่าข้อเข่าอีกข้างหรือส่วนอื่นของร่างกาย

เข่าบวมน้ำมีสาเหตุมาจากอะไร?

เข่าบวมเกิดจากอะไร

หลายคนสงสัยว่าหัวเข่าบวมเกิดจากอะไร และทำไมปัญหานี้จึงเกิดขึ้นได้กับทุกเพศทุกวัย สำหรับสาเหตุหลัก ๆ ของภาวะนี้มีดังนี้

  • การฉีกขาดของหมอนรองกระดูกหรือเอ็นเข่าอักเสบจากอุบัติเหตุหรือกีฬา ทำให้ร่างกายสร้างน้ำในข้อเพิ่มขึ้นเพื่อป้องกัน
  • ภาวะเสื่อมของข้อเข่า โดยคนที่มีอาการข้อเข่าเสื่อมจะมีการสร้างน้ำไขข้อมากเกินปกติ โดยเฉพาะในผู้สูงอายุหรือคนที่ใช้งานข้อหนัก
  • มีการติดเชื้อในข้อเข่าทำให้อักเสบรุนแรงและมีการสร้างน้ำหนองในข้อ ซึ่งเป็นภาวะฉุกเฉินทางการแพทย์
  • โรคภูมิคุ้มกันและเมตาบอลิซึม เช่น โรคเกาต์ รูมาตอยด์ หรือลูปัส ทำให้เกิดการอักเสบของข้อต่อต่าง ๆ
  • ใช้งานข้อเข่ามากเกินไป โดยเฉพาะนักกีฬาหรือคนที่ต้องยืนนาน ๆ มีความเสี่ยงสูงต่อการอักเสบและน้ำในข้อเข่าเพิ่มขึ้น
  • สาเหตุอื่น ๆ เช่น โรคกระดูกข้อเข่าขาดเลือด เนื้องอก หรือเศษกระดูกอ่อนหลุดลอยอยู่ในข้อเข่า

แพทย์มีการตรวจวินิจฉัยอาการเข่าบวมน้ำอย่างไร?

การตรวจวินิจฉัยอาการเข่าบวมน้ำ แพทย์จะเริ่มด้วยการซักประวัติผู้ป่วยอย่างละเอียด เพื่อหาสาเหตุที่ทำให้เกิดอาการ เช่น ประวัติการบาดเจ็บที่เข่า โรคข้อเข่าเสื่อม จากนั้นจะทำการตรวจร่างกายบริเวณข้อเข่า โดยสังเกตอาการบวม ตรวจการเคลื่อนไหว และความมั่นคงของข้อ ถ้าผู้ป่วยงอเข่าแล้วเจ็บหรือพบลักษณะหัวเข่าบวมข้างเดียว แพทย์อาจส่งตรวจเพิ่มเติมด้วยการเอกซเรย์เพื่อดูความผิดปกติของกระดูก หรืออัลตราซาวด์เพื่อประเมินปริมาณน้ำในเข่า

ในกรณีที่ต้องการผลวินิจฉัยที่ชัดเจนขึ้น แพทย์อาจแนะนำให้ตรวจ MRI ซึ่งจะให้ภาพละเอียดของโครงสร้างภายในข้อเข่า นอกจากนี้ ถ้าสงสัยการติดเชื้อหรือโรคข้ออักเสบ แพทย์อาจเจาะดูดน้ำในข้อเข่าเพื่อนำไปตรวจและระบุสาเหตุของอาการได้อย่างแม่นยำ โดยการตรวจเหล่านี้เป็นขั้นตอนสำคัญก่อนตัดสินใจเลือกวิธีรักษาหัวเข่าบวมที่เหมาะกับผู้ป่วยแต่ละราย เช่น การให้ยา การทำกายภาพบำบัด หรือการผ่าตัดในกรณีรุนแรง


วิธีรักษาอาการเข่าบวมน้ำ

การดูแลรักษาเข่าบวมน้ำต้องจัดการกับต้นเหตุของปัญหา แม้ว่าหลายคนอาจคิดว่าวิธีลดน้ำในเข่าที่ดีที่สุดคือการเจาะน้ำออก แต่แท้จริงแล้วแพทย์มักเลือกใช้วิธีนี้เป็นทางเลือกสุดท้าย เพราะการรักษาที่ยั่งยืนต้องเน้นที่การแก้ไขสาเหตุหลัก โดยขั้นตอนแรกของการรักษาคือตรวจร่างกายอย่างละเอียด อาจรวมถึงการตรวจพิเศษด้วย MRI เพื่อประเมินความเสียหายของโครงสร้างข้อเข่า จากนั้นแพทย์จะวางแผนการรักษาตามสาเหตุ 

สำหรับกรณีที่เกิดจากอุบัติเหตุฉับพลัน แพทย์มักแนะนำให้ปฏิบัติตามหลัก RICE ได้แก่ การพักข้อ (Rest) การประคบเย็น (Ice) การพันผ้ายืดเพื่อลดการบวม (Compression) และการยกขาให้สูง (Elevation) ร่วมกับการใช้ยาแก้ปวดและลดการอักเสบตามความเหมาะสม 

ถ้าพบความเสียหายรุนแรงต่อโครงสร้างสำคัญของข้อเข่า บางกรณีจำเป็นต้องได้รับการผ่าตัด โดยปัจจุบันเทคนิคการผ่าตัดแบบส่องกล้อง (Arthroscopic surgery) ซึ่งเป็นการผ่าตัดแบบบาดแผลน้อย (Minimal Invasive Surgery) ได้กลายเป็นมาตรฐานในการรักษา วิธีนี้จะช่วยลดความเจ็บปวดระหว่างและหลังผ่าตัด เพิ่มความแม่นยำในการรักษาและช่วยให้ผู้ป่วยฟื้นตัวได้เร็วขึ้น ทำให้สามารถกลับมาใช้ชีวิตได้ตามปกติในระยะเวลาที่สั้นลง


หลังรักษาอาการเข่าบวมน้ำควรดูแลตัวเองอย่างไร?

แม้การรักษาเข่าบวมน้ำโดยเฉพาะแบบผ่าตัดส่องกล้องจะทำให้ร่างกายฟื้นตัวเร็ว แต่การดูแลตัวเองให้ถูกวิธีก็ยังสำคัญ เพื่อป้องกันไม่ให้กลับมาเจอปัญหาซ้ำและช่วยให้ข้อเข่าแข็งแรงในระยะยาว ใครที่เคยมีอาการนี้ลองดูแนวทางดูแลตัวเองหลังรักษาตามนี้ได้เลย

  • ปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัด โดยเฉพาะช่วงพักฟื้น อย่าฝืนใช้งานหัวเข่าหนักเกินไป
  • ทำกายภาพบำบัดตามที่แพทย์สั่ง เพื่อให้กล้ามเนื้อรอบข้อเข่าแข็งแรง และลดโอกาสบวมซ้ำ
  • หมั่นเคลื่อนไหวข้อเข่าเบา ๆ อย่างสม่ำเสมอ ไม่ปล่อยให้อยู่นิ่งเกินไป เพราะอาจทำให้ข้อเข่ายึดหรือตึง
  • สังเกตอาการผิดปกติ เช่น ปวดมากขึ้น บวมรุนแรง หรือมีไข้ ถ้าพบอาการเหล่านี้ควรรีบพบแพทย์ทันที
  • ควบคุมน้ำหนักตัวให้อยู่ในเกณฑ์ เพราะน้ำหนักตัวที่มากเกินไปจะเพิ่มแรงกดทับข้อเข่า
  • หลีกเลี่ยงกิจกรรมที่ลงน้ำหนักมาก เช่น การวิ่งหรือกระโดด จนกว่าข้อเข่าจะฟื้นตัวเต็มที่
  • ถ่ายรูปหัวเข่าบวมไว้สังเกตความเปลี่ยนแปลง เพื่อติดตามความคืบหน้าในการฟื้นตัว

เข่าบวมน้ำไม่ใช่เรื่องเล็ก รู้ไว้ก่อนสายเกินแก้

ภาวะเข่าบวมน้ำเป็นปัญหาสุขภาพที่พบได้บ่อยโดยเฉพาะในยุคที่ชีวิตเร่งรีบและมีกิจกรรมที่เพิ่มความเสี่ยงต่อการบาดเจ็บ ลักษณะสำคัญคือมีการสะสมของสารน้ำผิดปกติในข้อเข่า ทำให้เกิดอาการบวม ปวด และจำกัดการเคลื่อนไหว สาเหตุหลัก ๆ มีหลายอย่าง ทั้งจากอุบัติเหตุ การเสื่อมของข้อเข่า การติดเชื้อ โรคภูมิคุ้มกันผิดปกติ หรือการใช้งานข้อเข่ามากเกินไป โดยการรักษาที่ถูกต้องต้องเน้นที่สาเหตุ ซึ่งแพทย์จะตรวจวินิจฉัยด้วยการซักประวัติ ตรวจร่างกาย และอาจต้องใช้เครื่องมือพิเศษเพิ่มเติม 

สำหรับใครที่กำลังมีปัญหาเข่าบวมน้ำหรือโรคกระดูกและข้ออื่น ๆ ศูนย์การแพทย์เฉพาะทางโรคกระดูกและข้อ โรงพยาบาลสมิติเวช ไชน่าทาวน์ เป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่น่าสนใจ ด้วยทีมแพทย์ที่พร้อมให้การดูแลรักษาอย่างครบวงจร ตั้งแต่การตรวจวินิจฉัย การรักษาด้วยยา การทำกายภาพบำบัด ไปจนถึงการผ่าตัดด้วยเทคนิคทันสมัย เพื่อให้ผู้ป่วยได้รับการรักษาที่เหมาะสมและกลับมาใช้ชีวิตได้อย่างมีคุณภาพอีกครั้ง โดยสามารถสอบถามข้อมูลได้ที่ 

ช่องทางติดต่อ


References

Joint Effusion (Swollen Joint): Symptoms, Causes, and Treatment. (2021, October 12). Cleveland Clinic. https://my.clevelandclinic.org/health/symptoms/21908-joint-effusion

Knee joint effusion – causes, symptoms and treatment. (2023, July 19). Bauerfeind-Group.com. https://www.bauerfeind-group.com/en/health/knee/knee-pain/knee-joint-effusion

Water On The Knee (Knee Effusion): Treatment, symptoms, and causes. (2017, November 13). https://www.medicalnewstoday.com/articles/187908

บทความและสุขภาพอื่นที่น่าสนใจ
pdpa-icon

เราใช้คุกกี้เพื่อเพิ่มประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ แสดงเนื้อหาให้ตรงกับความสนใจ รวมถึงเพื่อวิเคราะห์การเข้าใช้งานเว็บไซต์และทำความเข้าใจว่าผู้ใช้งานมาจากที่ใด คุณสามารถเลือกตั้งค่าความยินยอมการใช้คุกกี้ได้ นโยบายความเป็นส่วนตัว​ (Privacy Policy)​