ถ่ายเป็นเลือด สัญญาณเตือนโรคอันตราย เสี่ยงเป็นมะเร็งลำไส้ใหญ่
อาการถ่ายเป็นเลือด มักพบเลือดสดปะปนมาบนก้อนอุจจาระ เกิดได้จากหลายสาเหตุ เช่น ริดสีดวง สำไส้ใหญ่อักเสบ เนื้องอกหรือมะเร็งลำไส้ใหญ่ ควรรีบพบแแพทย์เพื่อรักษา
ผู้ป่วยโรคเบาหวานส่วนใหญ่ย่อมทราบดีว่าโรคนี้เป็นโรคเรื้อรังที่มีอาการซับซ้อนและยากต่อการรักษา อีกทั้งยังเสี่ยงต่อการเกิดภาวะแทรกซ้อนได้ง่าย และหนึ่งในภาวะแทรกซ้อนที่พบได้บ่อยคือ การอักเสบที่เนื้อเยื่อในส่วนต่าง ๆ ของร่างกาย โดยเฉพาะอย่างยิ่ง “แผลเบาหวานที่เท้า” หากปล่อยทิ้งไว้โดยไม่ได้ทำการดูแลอย่างเหมาะสม อาจนำไปสู่แผลเบาหวานติดเชื้อที่รุนแรง มีอาการแทรกซ้อนจากโรคเท้า และทำให้แผลเบาหวานลุกลามมากขึ้นจนต้องตัดขาในท้ายที่สุด
สารบัญบทความ
แผลเบาหวานที่เท้า (Diabetic Foot Ulcers) เป็นแผลเรื้อรังบริเวณเท้าของผู้ป่วยเบาหวานซึ่งมีผลมาจากการที่ระดับน้ำตาลและไขมันในเลือดสูงจนไปจับกับเส้นเลือดทำให้หลอดเลือดตีบแข็งหรืออุดตัน ส่งผลให้แผลบริเวณเท้าฟื้นฟูตัวเองช้า ติดเชื้อได้ง่าย และลุกลามได้เร็ว
เมื่อระบบประสาทส่วนปลายถูกทำลายจากภาวะน้ำตาลในเลือดสูง การรับรู้ความรู้สึกที่เท้าจะลดลง ผู้ป่วยอาจไม่รู้สึกถึงการเป็นแผลที่เท้า หรือการกดทับในบริเวณเท้า อาจทำให้แผลเบาหวานที่เท้าขนาดเล็ก อย่างเช่น เล็บขบหรือตาปลาที่เท้าลุกลามเป็นแผลใหญ่โดยไม่รู้ตัว
สาเหตุของการเกิดแผลเบาหวานที่เท้าพบได้บ่อยมากกว่าส่วนอื่น ๆ เป็นเพราะเท้าคืออวัยวะที่ถูกใช้งานมากที่สุดในชีวิตประจำวัน เมื่อระบบประสาทส่วนปลายถูกทำลายจากภาวะน้ำตาลในเลือดสูง การรับรู้ความรู้สึกที่เท้าจะลดลง ทำให้เมื่อเดินไปเตะหรือเหยียบวัตถุที่ทำให้เกิดแผล จะรู้สึกชา ๆ ไม่ได้รู้สึกเจ็บ ทำให้กว่าจะรู้ตัวแผลก็ติดเชื้อ หรือเรื้อรังเสียแล้ว
แผลคนเป็นเบาหวานจะเกิดขึ้นบริเวณส่วนใดส่วนหนึ่งของเท้าผู้ป่วยโรคเบาหวาน โดยทั่วไปลักษณะแผลเบาหวานที่เท้าจะแตกต่างจากแผลปกติอย่างเห็นได้ชัด ไม่ว่าจะขนาดของบาดแผล การลุกลาม และระยะเวลาการสมานแผล โดยรายละเอียดลักษณะของแผลเบาหวานที่เท้า มีดังนี้
กลุ่มเสี่ยงที่อาจเกิดแผลเบาหวานที่เท้าคือ ผู้ป่วยโรคเบาหวานและไม่ได้ควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดอย่างเหมาะสม รวมถึงผู้ที่มีปัญหาสุขภาพที่เกี่ยวข้องกับระบบหลอดเลือดและระบบประสาทที่เท้า หรือผู้ป่วยเบาหวานที่มีโรคแทรกซ้อน เช่น โรคหลอดเลือดส่วนปลายตีบ หรือภาวะเส้นประสาทเสื่อม มักจะเสี่ยงต่อการเกิดแผลพุพอง แผลเบาหวานที่เท้ามากขึ้น
เนื่องจากการไหลเวียนเลือดไม่ดีและสูญเสียความรู้สึกที่เท้า ทำให้ไม่รู้ตัวเมื่อเกิดการบาดเจ็บหรือกดทับที่เท้า อีกทั้งผู้ที่ติดเชื้อซ้ำก็จะมีโอกาสเกิดแผลได้ง่ายขึ้น นอกจากนี้ยังรวมถึงผู้ที่สูบบุหรี่ มีเท้าผิดรูป เท้าเป็นตาปลา และผู้ที่มีภาวะความดันโลหิตสูงหรือไขมันในเลือดสูงก็เพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดแผลเบาหวานที่เท้าได้เช่นกัน
แผลเบาหวานที่เท้าเป็นหนึ่งในภาวะแทรกซ้อนที่ร้ายแรงและซับซ้อนของโรคเบาหวาน ซึ่งส่งผลกระทบโดยตรงต่อคุณภาพชีวิตของผู้ป่วยโรคเบาหวาน แผลที่ดูเหมือนเล็กน้อยอาจลุกลามจนเกิดการติดเชื้อรุนแรงได้ โดยอันตรายและความรุนแรงจากแผลเบาหวานที่เท้า ดังนี้
ผู้ป่วยโรคเบาหวานที่มีแผลเบาหวานที่เท้าต้องคอยสังเกต ดูแลรักษา และป้องกันไม่ให้เกิดแผลบริเวณเท้า เนื่องจากแผลเบาหวานอาจลุกลามจนติดเชื้อรุนแรงและนำไปสู่การสูญเสียอวัยวะได้ ดังนั้นการตรวจเบาหวานและควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดให้อยู่ในเกณฑ์ปกติเป็นสิ่งสำคัญที่สุด หมั่นรักษาความสะอาด และใส่รองเท้าที่เหมาะสมเป็นสิ่งสำคัญที่ช่วยลดความเสี่ยงจากการเกิดแผลเบาหวานที่เท้า
ที่สมิติเวช ไชน่าทาวน์ พร้อมให้บริการรักษาผู้ป่วยที่อยากทำการรักษาแผลเบาหวานที่เท้าด้วยทีมแพทย์ผู้ชำนาญการและมีประสบการณ์ พร้อมให้บริการด้วยมาตรฐานการรักษาระดับสากล ร่วมกับเครื่องมือที่มีเทคโนโลยีที่ทันสมัย ช่วยรักษาผู้ป่วยแผลเบาหวานตั้งแต่ระยะเริ่มต้นโดยการดูแลแผลเฉพาะจุด การควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด ไปจนถึงการให้คำแนะนำในการดูแลเท้าอย่างเหมาะสม เพื่อป้องกันภาวะแทรกซ้อนและระงับการลุกลามที่แผลเบาหวานของผู้ป่วย
ช่องทางติดต่อ
อ้างอิง
Amit Sapra; Priyanka Bhandari. (2023, June 21). Diabetes. https://www.ncbi.nlm.nih.gov/books/NBK551501/#:~:text=Diabetes%20mellitus%20(DM)%20is%20a,%2C%20and%20steroid%2Dinduced%20diabetes.
Erika F. Brutsaert. (2023, Nov). Diabetes Mellitus (DM). https://www.merckmanuals.com/home/hormonal-and-metabolic-disorders/diabetes-mellitus-dm-and-disorders-of-blood-sugar-metabolism/diabetes-mellitus-dm
เราใช้คุกกี้เพื่อเพิ่มประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ แสดงเนื้อหาให้ตรงกับความสนใจ รวมถึงเพื่อวิเคราะห์การเข้าใช้งานเว็บไซต์และทำความเข้าใจว่าผู้ใช้งานมาจากที่ใด คุณสามารถเลือกตั้งค่าความยินยอมการใช้คุกกี้ได้ นโยบายความเป็นส่วนตัว (Privacy Policy)