ไทรอยด์อ้วนเกิดจากอะไร ทำไมไทรอยด์ทำงานผิดปกติแล้วถึงอ้วนขึ้น?
ไทรอยด์อ้วน (Hypothyroidism) ภาวะน้ำหนักตัวเพิ่มหรืออ้วนง่ายจากความผิดปกติของต่อมไทรอยด์ ที่ทำงานได้ลดลง ผลิตฮอร์โมนไม่สมดุล จนระบบเผาผลาญพัง
ต่อมไทรอยด์คือต่อมไร้ท่อบริเวณลำคอที่มีบทบาทสำคัญต่อการทำงานของร่างกาย โดยจะทำหน้าที่ควบคุมการเผาผลาญพลังงานและการทำงานของระบบต่าง ๆ ในร่างกาย เมื่อเกิดปัญหาไทรอยด์ผิดปกติขึ้น ก็อาจส่งผลกระทบต่อสุขภาพและระบบการทำงานต่าง ๆ ของร่างกายได้
การทำความเข้าใจถึงสาเหตุ สัญญาณเตือน อาการ และวิธีการรักษาที่เหมาะสมของอาการไทรอยด์ผิดปกติ จึงเป็นสิ่งจำเป็นที่ไม่ควรมองข้าม เพื่อจะได้เข้ารับการรักษาตั้งแต่ระยะแรกเริ่มของอาการ
สารบัญบทความ
ต่อมไทรอยด์ (Thyroid Gland)คือต่อมไร้ท่อบริเวณลำคอที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในร่างกาย โดยต่อมไทรอยด์มีหน้าที่สร้างฮอร์โมนไทรอยด์ที่ควบคุมการเผาผลาญพลังงาน การเจริญเติบโต และการทำงานของระบบต่าง ๆ ในร่างกาย
เมื่อต่อมไทรอยด์ผิดปกติก็อาจสร้างฮอร์โมนมากเกินไปหรือน้อยเกินไป ซึ่งส่งผลให้เกิดผลกระทบต่อร่างกายตามมา เช่น น้ำหนักเปลี่ยนแปลงผิดปกติ อ่อนเพลีย หัวใจเต้นเร็วหรือช้า ปัญหาผิวและเส้นผม รวมถึงการเปลี่ยนแปลงของอารมณ์ ซึ่งหากไม่ได้รับการรักษาที่เหมาะสมก็อาจส่งผลกระทบต่อการใช้ชีวิตและสุขภาพระยะยาวได้
อาการโรคไทรอยด์ผิดปกติเป็นอาการที่พบได้บ่อยในปัจจุบัน ซึ่งส่งผลกระทบต่อสุขภาพและคุณภาพชีวิตของผู้ป่วยเป็นอย่างมาก โดยอาการไทรอยด์ผิดปกติสามารถแบ่งออกได้เป็น 2 ประเภทหลัก ๆ ซึ่งแต่ละประเภทจะมีสาเหตุและลักษณะอาการที่แตกต่างกันดังนี้
ภาวะต่อมไทรอยด์ทำงานเกินเกิดจากต่อมไทรอยด์สร้างฮอร์โมนมากเกินความต้องการของร่างกาย ทำให้เกิดอาการไทรอยด์ผิดปกติ เช่น หัวใจเต้นเร็ว น้ำหนักลด อ่อนเพลีย มือสั่น มีเหงื่อออกมาก และหงุดหงิดง่าย ซึ่งอาจพบปัญหาไทรอยด์โตที่เป็นสาเหตุของไทรอยด์เป็นพิษและมะเร็งต่อมไทรอยด์ได้ในบางราย หากไม่ได้รับการรักษาที่เหมาะสม
ภาวะต่อมไทรอยด์ทำงานต่ำ หรือไทรอยด์อ้วน เกิดจากต่อมไทรอยด์สร้างฮอร์โมนไม่เพียงพอต่อความต้องการของร่างกาย โดยผู้ป่วยที่เป็นไทรอยด์ต่ําจะมีอาการน้ำหนักตัวเพิ่มขึ้น รู้สึกอ่อนเพลีย ผิวแห้ง เส้นผมร่วง หนาวง่าย และท้องผูก ซึ่งอาการเหล่านี้จะมีอาการแบบค่อยเป็นค่อยไป จึงมักถูกมองข้ามในช่วงระยะเริ่มต้น
การสังเกตลักษณะอาการของไทรอยด์ผิดปกติเป็นสิ่งสำคัญสำหรับการวินิจฉัยและรักษาในระยะเริ่มต้น ซึ่งอาการคนเป็นไทรอยด์มักมีลักษณะเหมือนอาการป่วยทั่วไป จนอาจทำให้เข้าใจผิดว่าเป็นปัญหาสุขภาพอื่น โดยโรคไทรอยด์ผิดปกติจะมีอาการที่เป็นสัญญาณเตือนดังนี้
อาการเหนื่อยง่าย อ่อนเพลีย ใจสั่นเป็นสัญญาณเตือนสำคัญของไทรอยด์ผิดปกติ ผู้ป่วยจะรู้สึกอ่อนเพลียแม้ไม่ได้ทำกิจกรรมหนัก มีอาการเหนื่อยง่ายกว่าปกติ และอาจมีอาการใจสั่นหรือหัวใจเต้นผิดปกติ ในภาวะที่ไทรอยด์ทำงานเกิน หัวใจจะเต้นเร็วและแรง ส่วนภาวะไทรอยด์ทำงานต่ำ จะทำให้รู้สึกอ่อนเพลียมากและหัวใจเต้นช้าลง
ปัญหาการนอนหลับเป็นอาการที่พบบ่อยในผู้ป่วยไทรอยด์ผิดปกติ โดยเฉพาะในภาวะไทรอยด์ทำงานเกิน ผู้ป่วยจะมีอาการตื่นตระหนก นอนไม่หลับ หรือหลับไม่สนิท เนื่องจากการเผาผลาญที่เร็วเกินไปจนทำให้ร่างกายอยู่ในสภาวะตื่นตัวตลอดเวลา
อาการรู้สึกง่วงตลอดเวลา ไม่สดชื่นมักพบในภาวะไทรอยด์ทำงานต่ำ ผู้ป่วยจะรู้สึกง่วงนอนตลอดเวลาแม้จะนอนหลับเพียงพอ รู้สึกไม่สดชื่นเมื่อตื่นขึ้นมา เนื่องจากการเผาผลาญที่ช้าลงทำให้ร่างกายไม่สามารถสร้างพลังงานได้อย่างเต็มที่ ส่งผลให้มีอาการง่วงซึมและไม่มีแรงในการทำกิจกรรมต่าง ๆ
ฮอร์โมนไทรอยด์มีบทบาทสำคัญต่อสุขภาพของเส้นผม เมื่อไทรอยด์ผิดปกติจะทำให้สุขภาพของเส้นผมเปลี่ยนไป ในภาวะไทรอยด์ทำงานต่ำผมจะแห้ง หยาบกระด้าง และร่วงมากกว่าปกติ ส่วนในภาวะไทรอยด์ทำงานเกินผมอาจบางลงและหลุดร่วงได้ง่าย การเปลี่ยนแปลงของสภาพเส้นผมมักเป็นสัญญาณเตือนสำคัญที่ไม่ควรมองข้าม
ผิวหนังเป็นส่วนที่ได้รับผลกระทบจากฮอร์โมนไทรอยด์โดยตรง ในภาวะไทรอยด์ทำงานต่ำ ผิวจะแห้ง หยาบ และอาจมีสีซีดกว่าปกติ เนื่องจากการไหลเวียนของเลือดและการสร้างเซลล์ผิวใหม่ช้าลง ส่วนในภาวะไทรอยด์ทำงานเกิน ผิวอาจมีความชื้นมากเกินไปจนทำให้ผิวอ่อนนุ่มผิดปกติ
ฮอร์โมนไทรอยด์มีส่วนสำคัญในการควบคุมอุณหภูมิร่างกาย ผู้ป่วยที่ไทรอยด์ผิดปกติในภาวะไทรอยด์ทำงานเกิน ผู้ป่วยจะรู้สึกร้อนผิดปกติ และเหงื่อออกมาก ส่วนในภาวะไทรอยด์ทำงานต่ำ ผู้ป่วยจะรู้สึกหนาวง่าย โดยเฉพาะที่มือและเท้า และมีอุณหภูมิร่างกายต่ำกว่าปกติ
หากน้ำหนักมีการเปลี่ยนแปลงโดยไม่มีสาเหตุที่ชัดเจน นี่อาจเป็นสัญญาณเตือนของอาการไทรอยด์ผิดปกติ ในภาวะไทรอยด์ทำงานเกิน น้ำหนักจะลดลงอย่างรวดเร็วแม้จะกินอาหารตามปกติหรือมากขึ้น ส่วนในภาวะไทรอยด์ทำงานต่ำ น้ำหนักจะเพิ่มขึ้นค่อนข้างง่าย เนื่องจากการเผาผลาญที่ช้าลง การเปลี่ยนแปลงเหล่านี้มักเกิดขึ้นแม้จะไม่ได้เปลี่ยนแปลงพฤติกรรมการกินหรือการออกกำลังกาย
อาการไทรอยด์ผิดปกติจะส่งผลต่อความอยากอาหารด้วยเช่นกัน ในภาวะไทรอยด์ทำงานเกิน ผู้ป่วยจะรู้สึกหิวบ่อยและต้องการอาหารมากกว่าปกติ เนื่องจากการร่างกายเผาผลาญได้เร็ว ส่วนในภาวะไทรอยด์ทำงานต่ำ ผู้ป่วยจะมีความอยากอาหารลดลง ไม่อยากกิน และอาจมีอาการคลื่นไส้ร่วมด้วย
ระบบย่อยอาหารจะได้รับผลกระทบจากฮอร์โมนไทรอยด์เป็นอย่างมาก ในภาวะไทรอยด์ทำงานเกิน จะมีอาการถ่ายเหลวหรือถ่ายบ่อยกว่าปกติ เนื่องจากระบบย่อยอาหารทำงานเร็วเกินไป ส่วนในภาวะไทรอยด์ทำงานต่ำ จะมีอาการท้องผูก เนื่องจากการเคลื่อนไหวของลำไส้ทำงานได้ช้าลง อาการเหล่านี้แม้จะไม่รุนแรงแต่มักส่งผลต่อความสะดวกสบายและคุณภาพชีวิตของผู้ป่วย
สำหรับผู้หญิงที่มีอาการไทรอยด์ผิดปกติมักมีปัญหาเกี่ยวกับประจำเดือน ในภาวะไทรอยด์ทำงานเกิน ประจำเดือนอาจมาน้อยลง หรือหยุดไปเลย ส่วนในภาวะไทรอยด์ทำงานต่ำ ประจำเดือนอาจมามากผิดปกติหรือมาไม่สม่ำเสมอ ซึ่งปัญหาเหล่านี้อาจส่งผลต่อความสามารถในการตั้งครรภ์ได้
แม้ว่าอาการไทรอยด์ผิดปกติจะสามารถเกิดขึ้นได้กับทุกคนในทุกช่วงอายุ แต่สำหรับคนบางกลุ่มจะมีความเสี่ยงสูงกว่าคนทั่วไป โดยกลุ่มที่มีความเสี่ยงต่อการเกิดไทรอยด์ผิดปกติจะมีดังนี้
การรักษาอาการไทรอยด์ผิดปกติมีอยู่หลายวิธีขึ้นอยู่กับประเภทและความรุนแรงของโรค สำหรับภาวะไทรอยด์ทำงานต่ำ การรักษาหลัก ๆ จะเป็นการให้ฮอร์โมนไทรอยด์สังเคราะห์ เช่น Levothyroxine เพื่อทดแทนฮอร์โมนที่ขาดหายไป ส่วนภาวะไทรอยด์ทำงานเกินจะรักษาด้วยยาต้านไทรอยด์ เช่น Methimazole หรือ Propylthiouracil เพื่อลดการสร้างฮอร์โมน
ในกรณีที่มีก้อนที่ต่อมไทรอยด์ อาจต้องใช้วิธีจี้ก้อนไทรอยด์หรือการรักษาด้วยไอโอดีน และถ้าหากการรักษาด้วยยาไม่ได้ผลหรือมีภาวะแทรกซ้อนรุนแรง อาจจำเป็นต้องผ่าตัดไทรอยด์เพื่อตัดต่อมบางส่วนออก ซึ่งผู้ป่วยจำเป็นจะต้องรับประทานฮอร์โมนทดแทนตลอดชีวิตหลังการผ่าตัด แพทย์จะเป็นผู้พิจารณาเลือกวิธีการรักษาที่เหมาะสมที่สุดสำหรับผู้ป่วยแต่ละราย เพื่อผลลัพธ์การรักษาที่มีประสิทธิภาพมากที่สุด
แม้ว่าอาการไทรอยด์ผิดปกติบางประเภทจะไม่สามารถป้องกันได้ 100% เนื่องจากปัจจัยทางพันธุกรรมหรือปัญหาด้านภูมิคุ้มกัน แต่การปฏิบัติตัวอย่างเหมาะสมสามารถช่วยลดความเสี่ยงและรักษาสุขภาพของต่อมไทรอยด์ได้ โดยวิธีการป้องกันและดูแลที่เหมาะสมจะมีดังนี้
ไทรอยด์ผิดปกติเป็นปัญหาสุขภาพที่พบได้บ่อยและส่งผลกระทบต่อการใช้ชีวิตเป็นอย่างมาก โดยแบ่งออกเป็น 2 ประเภทหลัก ๆ คือ ภาวะไทรอยด์ทำงานเกินและภาวะไทรอยด์ทำงานต่ำ ที่มีผลต่อการทำงานของร่างกายที่แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง ควรสังเกตสัญญาณเตือนต่าง ๆ อย่างการเปลี่ยนแปลงของน้ำหนัก ปัญหาการนอนหลับ หรือการเปลี่ยนแปลงของผิวหนังและเส้นผม โดยเฉพาะผู้หญิง ผู้สูงอายุ และผู้ที่มีประวัติครอบครัวเป็นโรคนี้ จะมีความเสี่ยงสูงกว่าคนทั่วไป
หากใครที่รู้สึกกังวลหรือสงสัยว่าตัวเองกำลังมีลักษณะอาการไทรอยด์ผิดปกติ และต้องการรับการรักษาที่มีประสิทธิภาพ ที่โรงพยาบาลสมิติเวช ไชน่าทาวน์ เรามีทีมแพทย์ที่มีความเชี่ยวชาญด้านต่อมไร้ท่อ พร้อมเทคโนโลยีการตรวจวินิจฉัยที่ทันสมัย เพื่อให้การรักษาที่เหมาะสมกับแต่ละคนมากที่สุด
ช่องทางติดต่อ
References
Team Cleveland Clinic. (2024, Mar 25). Thyroid Disease https://my.clevelandclinic.org/health/diseases/8541-thyroid-disease
Team NHS. (2025, Apr 28). Underactive thyroid (hypothyroidism) https://www.nhs.uk/conditions/underactive-thyroid-hypothyroidism/
Mayo Clinic Staff. (2022, Dec 10). Hypothyroidism (underactive thyroid) https://www.mayoclinic.org/diseases-conditions/hypothyroidism/symptoms-causes/syc-20350284