ต้อกระจกในผู้สูงอายุ ภัยทางสายตาที่อาจทำให้สูญเสียการมองเห็นได้
ต้อกระจกในผู้สูงอายุ คือ ภาวะที่เลนส์ตามีความขุ่นมัวหรือเปลี่ยนสี ส่งผลให้การมองเห็นของผู้ป่วยพร่ามัวและลดลงตามระยะเวลา
โรคต้อหิน (Glaucoma) คือโรคที่เกิดขึ้นได้กับดวงตาโดยเฉพาะกับผู้ที่กำลังเข้าสู่วัยทอง (Menopause) และวัยผู้สูงอายุ ผู้ป่วยมักไม่รู้ตัวว่าตนเองกำลังเป็นโรคต้อหิน เนื่องจากไม่สามารถสังเกตเห็นได้จากภายนอกเลยหากไม่ได้รับการตรวจตาโดยจักษุแพทย์อย่างสม่ำเสมอทุกปีเพื่อป้องกันและสังเกตุอาการ อาจส่งผลให้เกิดการสูญเสียการมองเห็นอย่างถาวรได้
ต้อหิน เกิดจากเซลล์เส้นใยประสาทในลูกตาลดจำนวนลง จนทำให้ขั้วประสาทตา (Optic Disc) เสื่อมสภาพลง
อาการขั้วประสาทตาเสื่อมสาเหตุของโรคต้อหิน ส่วนใหญ่จะเกิดขึ้นเองจากการที่อวัยวะต่างๆเริ่มเสื่อมสภาพเมื่ออายุมากขึ้น อีกสาเหตุหนึ่งที่พบคือความดันในลูกตาสูงกว่าปกติ (สูงกว่า 22 มิลลิเมตรปรอท) เมื่อความดันสูง ความดันจะไปกดทับจอประสาทตาทำให้เส้นใยประสาทได้รับผลกระทบและเสื่อมสภาพลง
ความดันลูกตาสูงเกิดจาก น้ำหล่อเลี้ยงลูกตา(Aqueous Humor)ที่ไหลออกจากดวงตาผ่านทางช่องระหว่างเลนส์ตาและม่านตามาที่ชั้นหลังกระจกตา แล้วจึงระบายน้ำออกที่ช่องระบายน้ำระหว่างรอยต่อของกระจกตาดำและตาขาว หากช่องระบายน้ำในตำแหน่งใดตำแหน่งหนึ่งถูกปิด น้ำจะขังอยู่ในลูกตาเมื่อน้ำในตามากเกินไปจนความดันลูกตาสูงขึ้น เหมือนลูกโป่งที่ถูกเติมน้ำไปเรื่อยๆ เมื่อถึงจุดหนึ่งความดันนี้จะไปดันเนื้อเยื่อจนกดทับเส้นประสาท ทำให้เส้นประสาทถูกทำลาย ขั้วประสาทตาเสื่อม เกิดเป็นโรคต้อหินนั้นเอง โดยคนไทยเราจะเรียกรวมโรคเกี่ยวกับดวงตาว่าเป็นโรคต้อ โดยโรคต้อนี้มีด้วยกัน 4 โรค ได้แก่ ต้อหิน ต้อลม ต้อเนื้อ และต้อกระจก แต่ละโรคจะมีสาเหตุของโรค อาการ วิธีการรักษา และความรุนแรงที่แตกต่างกันไป
ต้อหินปฐมภูมิเกิดขึ้นเองในร่างกาย มีทั้งชนิดที่ขั้วประสาทตาเสื่อมเองจึงตรวจไม่พบความดันในลูกตาสูง และชนิดที่เกิดจากระบบระบายน้ำในลูกตาอุดตัน ทำให้ความดันลูกตาสูงจนขั้วประสาทตาเสื่อม
โดยสามารถแบ่งออกได้ 2 เภทตามลักษณะการอุดตันของทางระบายน้ำ ได้แก่ ต้อหินมุมเปิด และต้อหินมุมปิด
ต้อหินมุมเปิด เกิดจากการอุดตันบริเวณรูระบายน้ำออกนอกดวงตาที่อยู่ระหว่างกระจกตาดำและตาขาว รูระบายน้ำดังกล่าว เรียกว่า Trabecular meshwork มีลักษณะเป็นตัวกรอง เมื่อมีเนื้อเยื่อ หรือวัตถุขนาดเล็กไปอุดตัน จะทำให้น้ำไหลออกจากลูกตาไม่ได้จนความดันลูกตาสูงขึ้น เกิดเป็นต้อหินโดยที่ม่านตาไม่ได้ยกตัวขึ้นจนเกิดเป็นมุมปิด สามารถรักษาการอุดตันได้ด้วยการหยอดตา แม้จะไม่ได้ทำให้การมองเห็นกลับมาเป็นปกติ แต่จะไม่ทำให้ขั้วประสาทตาเสื่อมมากขึ้น การมองเห็นจะไม่แคบลงไป
ต้อหินมุมปิด เกิดจากม่านตาถูกดันให้ยกตัวขึ้นจนเป็นมุมปิด กั้นไม่ให้น้ำระบายออกทาง Trabecular meshwork จนทำให้ความดันลูกตาสูงขึ้นและเกิดเป็นโรคต้อหินในที่สุด โดยต้อหินมุมปิดนี้แบ่งออกเป็น 2 ประเภทย่อยๆ ตามความฉุกเฉินของอาการ ได้แก่
ต้อหินทุติยภูมิ เป็นต้อหินที่เกิดจากการกระตุ้นบางอย่าง ทำให้ขั้วประสาทตาเสื่อม ความดันลูกตาสูง หรือเกิดปัจจัยอื่นๆที่ทำให้เกิดต้อหิน
ตัวอย่างของสิ่งกระตุ้น เช่น เคยประสบอุบัติเหตุเกี่ยวกับดวงตา เศษหิน หรือวัตถุอื่นๆเข้าตา รุนแรงจนต้องเข้ารับการผ่าตัด ตาอักเสบ มีเนื้องอกในดวงตา เป็นต้อกระจกในขั้นรุนแรง เบาหวานขึ้นตา หรือเคยซื้อยาหยอดตามาใช้เองติดต่อกันเป็นเวลานาน โดยเฉพาะยาหยอดตาที่มีส่วนผสมของสเตียรอยด์
ต้อหินทุติยภูมิจะถูกเรียกว่าเป็นต้อหินชนิดแทรกซ้อน เนื่องจากมักเกิดตามมาจากโรงทางดวงตาอื่นๆ หรือเกิดหลังการผ่าตัดนั่นเอง
สามารถแสดงอาการได้ตั้งแต่แรกเกิด โดยจะเกิดจากความผิดปกติของดวงตาตั้งแต่ช่วงตั้งครรภ์เป็นโรคที่เกี่ยวกับพันธุกรรมเป็นหลัก โดยยีนที่ทำให้เกิดโรคจะเป็นยีนด้อย ลูกจะเกิดโรคนี้ขึ้นได้ก็ต่อเมื่อทั้งพ่อและแม่เป็นพาหะ แต่จะมีโอกาสเกิดขึ้นได้เพียง 25% เท่านั้น
ทั้งนี้อาการของโรคต้อหินโดยกำเนิดสามารถสังเกตได้จากทั้งร่างกายและพฤติกรรมของทารกหรือเด็กเล็ก ดังนี้
หากมีอาการเหล่านี้ ควรรีบพาไปพบแพทย์ หากทิ้งไว้อาจทำให้ตาบอดอย่างถาวรได้
โรคต้อหิน อาการจะสังเกตค่อนข้างยากหากไม่ใช่โรคต้อหินเฉียบพลัน อาการของโรคจะค่อยเป็นค่อยไป ผู้ป่วยจะสูญเสียการมองเห็นเรื่อยๆ จากด้านนอกเข้าสู่ด้านใน ผู้ป่วยบางรายอาจจะปวดหัว หรือปวดตาร่วมด้วย เป็นๆหายๆในระยะเวลานาน หรือบางรายก็ไม่เกิดอาการอื่นขึ้นเลยทำให้ผู้ป่วยอาจคิดว่าเป็นแค่โรคสายตายาวหรือแค่สายตามัว จอประสาทตาเสื่อมก็เป็นได้
อาการของต้อหินอาจจะกินเวลาถึง 10 ปีกว่าจะสูญเสียการมองเห็นไป ทำให้ผู้ป่วยไม่ทันสังเกตว่าสายตากำลังมีปัญหา ดังนั้นผู้ที่มีอายุมากกว่า 40 ปีขึ้นไปควรเข้าตรวจสายตาทุกปี เพื่อป้องกันการลุกลาม
วิธีสังเกตอาการของต้อหินด้วยตนเองจะเป็นการตรวจลานสายตาคร่าวๆ โดยการใช้มือปิดตาข้างหนึ่ง เพื่อตรวจดูการมองเห็นทีละข้าง จะเช็คด้วยการให้มองรอบๆ บน ล่าง ซ้าย ขวา สังเกตว่าขอบเขตในการมองเห็นน้อยลง หรือน้อยกว่าคนทั่วไปหรือไม่ หากเกิดอาการดังกล่าวแสดงว่ามีโอกาสที่จะเป็นต้อหิน ให้รีบมาพบแพทย์เพื่อวินิจฉัยโดยละเอียดอีกครั้ง
อาการของโรคต้อหินเฉียบพลันจะต่างจากต้อหินชนิดอื่นๆ เนื่องจากความดันในลูกตาสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว ส่งผลให้ร่ายกายได้รับผลกระทบอย่างฉับพลัน ร่ายกายจึงแสดงอาการของโรคอย่างชัดเจน โดยอาการของโรคต้อหินเฉียบพลันมีดังนี้
หากมีอาการดังกล่าวควรรีบพบแพทย์โดยด่วย เพราะอาจจะทำให้สูญเสียการมองเห็นได้เร็วกว่าต้อหินแบบอื่นๆ
แพทย์จะตรวจวัดลานสายตา เพื่อประเมินการทำงานของเส้นประสาทและจอประสาทตาโดยคร่าว และจะตรวจวัดดวงตาในด้านอื่นๆโดยละเอียดหากสงสัยว่าผู้ป่วยเป็นโรคต้อหิน อย่างการวัดความดันลูกตา ที่เป็นปัจจัยเสี่ยงสำคัญปัจจัยเดียวที่สามารถแก้ไขได้
รวมทั้งตรวจดูขั้วประสาท จอตา ดูการกระจายเส้นใยประสาทตา เพื่อสังเกตอาการ และตรวจมุมตาเพื่อหาทางแก้ไขโรคต่อไป
ทั้งนี้การวินิจฉัยว่าผู้ป่วยเป็นต้อหินหรือไม่ ขึ้นอยู่กับดุลพินิจของแพทย์ เนื่องจากต้องดูองค์ประกอบหลายอย่างประกอบกัน
การรักษาโรคต้อหินโดยการลดความดันลูกตา สามารถทำได้ 3 วิธี ได้แก่
ยารักษาต้อหินจะอยู่ในรูปของยาหยอดซึ่งช่วยลดการสร้างน้ำในลูกตา หรือช่วยให้น้ำในลูกตาระบายออกได้ดีขึ้น เพื่อลดความดันในลูกตา
ผู้ป่วยที่รักษาโรคต้อหินโดยการใช้ยาหยอดตาจำเป็นต้องมีวินัยในการใช้ยามาก เพราะต้องใช้ต่อเนื่องกันในระยะหนึ่ง แพทย์จะนัดติดตามผลเรื่อยๆ เพื่อดูอาการ และดูว่าเกิดภาวะแทรกซ้อนหรืออาการข้างเคียงหรือไม่ หากผลการรักษาไม่ดีขึ้น แพทย์จะพิจารณาให้รักษาด้วยการใช้เลเซอร์ร่วมด้วย
การรักษาต้อหินด้วยเลเซอร์นั้น มีผลในการควบคุมความดันลูกตา และช่วยให้ดวงตาระบายน้ำออกได้ดีขึ้น แพทย์จะให้ใช้การรักษาด้วยเลเซอร์ก็ต่อเมื่อการรักษาด้วยการหยอดยาอย่างเดียวไม่ได้ผล
แต่หลังทำเลเซอร์แล้วผู้ป่วยยังคงต้องหยอดตาต่อไป เนื่องจากในผู้ป่วยบางราย เลเซอร์จะไปกระตุ้นให้ความดันในลูกตาเพิ่มขึ้นแทนที่จะลดลง แต่ผลการรักษาที่ผิดพลาดนี้สามารถป้องกันได้ด้วยการหยอดตา แม้เหตุการณ์แบบนี้จะพบได้น้อยมากแต่แพทย์จะให้หยอดยาเพื่อป้องกัน และช่วยส่งเสริมการรักษาด้วยเลเซอร์ให้เห็นผลมากยิ่งขึ้น
หลังทำเลเซอร์รักษาโรคต้อหิน ผลการรักษาสามารถอยู่ได้นานตั้งแต่ 1 - 5 ปี ขึ้นอยู่กับแต่ละบุคคล สามารถทำซ้ำได้หลายครั้ง หลังทำเลเซอร์ผู้ป่วยอาจจะรู้สึกเคืองตา ตาแห้งบ้าง แต่อาการจะดีขึ้นเมื่อเวลาผ่านไป
หากการรักษาด้วยเลเซอร์ไม่ได้ผล แพทย์จะแนะนำให้ผ่าตัดเป็นวิธีสุดท้าย
การผ่าตัดรักษาต้อหินสามารถทำได้สองวิธี วิธีแรกเป็นการผ่าตัดเพื่อทำทางระบายน้ำ ให้น้ำระบายออกจากลูกตาได้ดีขึ้น หากหลังผ่าตัดแล้วน้ำยังคงระบายออกได้ไม่ดี ความดันในลูกตาไม่ลดลง แพทย์จะใช้การผ่าตัดอีกวิธีหนึ่งเป็นการผ่าตัดทำทางระบายน้ำโดยการสอดท่อเล็กๆเพื่อระบายน้ำออกจากลูกตา ทำให้ความดันในลูกตาลดลง เป็นการควบคุมความดันในลูกตานั่นเอง
โรคต้อหินไม่สามารถรักษาให้หายขาดได้แต่สามารถป้องกันได้ แม้เป็นโรคที่อาจเกิดขึ้นได้จากพันธุกรรม แต่การลดความเสี่ยงอื่นๆย่อมเป็นผลดี เพื่อหลีกเลี่ยงการเกิดโรคต้อหินให้ได้มากที่สุด โดยวิธีการป้องกันโรคต้อหินมีดังนี้
โรคต้อหินเป็นโรคที่ต้องอาศัยความเชี่ยวชาญของแพทย์ทั้งในการวินิจฉัยและการรักษา อีกทั้งโรคต้อหินยังเป็นโรคที่ทำให้สูญเสียการมองเห็นอย่างถาวรได้หากไม่รักษา และต้องรักษาติดต่อกันเป็นเวลานานด้วย ผู้ที่สงสัยว่าป่วยเป็นโรคต้อหินจึงต้องเลือกโรงพยาบาลที่ไปแล้วได้รับความมั่นใจว่ามีโอกาสที่อาการจะดีขึ้น และสบายใจที่จะรับการรักษาในระยะยาว
ที่ โรงพยาบาลสมิติเวช ไชน่าทาวน์ เราดูแลคนไข้เหมือนเป็นเพื่อนบ้านของเรา ทำให้การพบแพทย์เพื่อตรวจตาและรักษาโรคเป็นเรื่องปกติ อีกทั้งทางโรงพยาบาลยังมีจักษุแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางหลายท่าน ให้ผู้เข้ารับการรักษาได้รับความมั่นใจ และความสบายใจทุกครั้งที่มาพบแพทย์
เอกสารอ้างอิง
Mayo Clinic. (2020, October 23). Glaucoma. Mayo Clinic.
https://www.mayoclinic.org/diseases-conditions/glaucoma/symptoms-causes/syc-20372839
National Eye Institute. (2021, July 23). Laser Treatment for Glaucoma. NEI.
https://www.nei.nih.gov/learn-about-eye-health/eye-conditions-and-diseases/glaucoma/treatment
Glaucoma Associates of Texas. Glaucoma Filtration Surgery (Trabeculectomy). GAT.
https://www.glaucomaassociates.com/incisional-glaucoma-surgery/glaucoma-filtration-surgery-trabeculectomy/
เราใช้คุกกี้เพื่อเพิ่มประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ แสดงเนื้อหาให้ตรงกับความสนใจ รวมถึงเพื่อวิเคราะห์การเข้าใช้งานเว็บไซต์และทำความเข้าใจว่าผู้ใช้งานมาจากที่ใด คุณสามารถเลือกตั้งค่าความยินยอมการใช้คุกกี้ได้ นโยบายความเป็นส่วนตัว (Privacy Policy)