ต้อกระจกในผู้สูงอายุ ภัยทางสายตาที่อาจทำให้สูญเสียการมองเห็นได้
ต้อกระจกในผู้สูงอายุ คือ ภาวะที่เลนส์ตามีความขุ่นมัวหรือเปลี่ยนสี ส่งผลให้การมองเห็นของผู้ป่วยพร่ามัวและลดลงตามระยะเวลา
เชื่อว่า ใครหลายๆคน คงอยากจะมีดวงตาที่สดใสและเป็นอิสระ ไม่มีปัญหาเรื่องของภาวะสายตาสั้น สายตายาวโดยกำเนิด หรือสายตาเอียงมากวนใจในการใช้ชีวิตประจำวัน ซึ่งในความเป็นจริงแล้ว ปัญหานี้สามารถแก้ไขได้ด้วยหลากหลายวิธี หนึ่งในวิธีนั้นคือ การทำเลสิค
ปัจจุบัน มีนวัตกรรมใหม่ที่ช่วยแก้ไขปัญหาสายตาได้ด้วยการใช้เลสิคแบบไร้ใบมีด หรือที่เรียกกันว่า “Femto LASIK”
แล้วแบบนี้ การทำ Femtolasik ราคาเท่าไหร่? ดีไหม? ที่ไหนดี? มีขั้นตอนการทำอย่างไรบ้าง? รวมไปจนถึงคำถามยอดฮิตที่หลายๆคนอยากรู้ ไปค้นหาคำตอบพร้อมๆกันได้ในบทความนี้
สารบัญบทความ
Femto LASIK คือ นวัตกรรมการทำเลสิครูปแบบใหม่ที่สามารถแก้ไขปัญหาภาวะสายตาสั้น สายตายาวโดยกำเนิด และสายตาเอียงได้ โดยการผ่าตัดแบบไร้ใบมีด หรือการใช้แสงเลเซอร์จากเครื่อง femtosecond laser รุ่น Visumax ในการสแกนไปตามความโค้งของกระจกตา ด้วยความเร็วระดับ 500 กิโลเฮิร์ตอย่างแม่นยำ
เลเซอร์ที่ใช้ในการผ่าตัดเลสิคFemto มีความถี่สูง พลังงานต่ำ ความปลอดภัยสูง กำหนดความหนาของฝากระจก และสามารถแยกชั้นกระจกตาได้อย่างเรียบเนียน ไม่ก่อให้เกิดความเสียหายต่อเนื้อเยื่อบริเวณโดยรอบ ทำให้แผลกระจกตาที่ได้สามารถสมานตัวได้เร็ว อีกทั้งยังเป็นวิธีที่ใช้ระยะเวลาในการผ่าตัดน้อย พักฟื้นไม่นาน ลดโอกาสในการเกิดภาวะแทรกซ้อนได้อีกด้วย
รับส่วนลด Femto Lasik 1,000 เมื่อซื้อโปรแกรมตรวจประเมินสายตาก่อนทำเลสิกที่ LazadaA พร้อมรับสิทธินอน รพ. ฟรี 1 คืน
ซื้อผ่าน Lazada คลิกเลย
การทำFemto Lasik มีข้อดีหลายประการ ดังนี้
อาจมีบางคนกำลังสงสัยว่า lasik กับ femto ต่างกันยังไง? ถึงแม้ว่าทั้ง 2 รูปแบบนี้อาจมีขั้นตอนการทำที่คล้ายคลึงกัน แต่ก็ยังคงมีจุดเด่นหลักๆ ที่แตกต่างกันอยู่เล็กน้อย นั่นก็คือ เรื่องของเทคโนโลยีในการแยกชั้นกระจกตา
โดยการแยกชั้นกระจกตาแบบ Femto LASIK จะเป็นการใช้เลเซอร์ Femtosecond ยิงเข้าสู่กระจกตา ส่วนการแยกชั้นกระจกตาแบบ LASIK ธรรมดา จะเป็นการใช้ใบมีดที่เรียกว่า Microkeratome กรีดแยกชั้นกระจกตาออกมา
อีกทั้งยังมีความแตกต่างกันในแง่ของราคาค่าใช้จ่ายในการเข้ารับบริการ เนื่องจาก Femto LASIK ใช้เทคโนโลยีเลเซอร์ทั้งหมด ทำให้อาจมีค่าใช้จ่ายที่สูงกว่า LASIK ธรรมดา
ถึงแม้ว่าการผ่าตัดแบบfemto lasik กับ relex smile จะขึ้นชื่อว่าเป็นการทำเลสิคที่ไร้ใบมีดเหมือนกัน แต่ในความเป็นจริงแล้ว มีข้อแตกต่างกันอย่างเห็นได้ชัดเจน ดังนี้
การผ่าตัดแบบ Femto LASIK เป็นการผ่าตัดที่นำเอา femtosecond laser ฉายแสงเข้าสู่ดวงตา เพื่อผ่าแยกชั้นกระจกตา ทำให้เกิดการเปิดฝากระจกตาขึ้น และใช้เลเซอร์เอ็กไซเมอร์(Excimer laser) ทำการปรับความโค้งข้างในชั้นกระจกตา เมื่อปรับแต่งเสร็จแล้ว จึงปิดฝากระจกตาลงเป็นอันเสร็จสิ้น
จุดเด่นของวิธีนี้ คือ สามารถกำหนดความหนาของชั้นกระจกตาได้ ตั้งแต่ 80 - 200 ไมครอน มีระยะเวลาในการพักฟื้นเทียบเท่าหรือรวดเร็วกว่าแบบ relex smile สามารถแยกชั้นกระจกตาได้เรียบเนียน อีกทั้งยังเป็นวิธีการรักษาที่ทันสมัยที่สุดสำหรับการแก้ไขปัญหาภาวะสายตายาวโดยกำเนิด
การผ่าตัดแบบเลสิค ReLex SMILE เป็นการผ่าตัดที่นำ femtosecond laser มาใช้ในการตัดแยกชั้นกระจกตาเป็นรูปเลนส์ (Lenticule) อยู่ภายในกระจกตา จากนั้นทำการกรีดเปิดแผลขนาดเล็กประมาณ 2 - 4 มิลลิเมตร เพื่อดึงกระจกตาที่ตัดไว้อยู่ภายในออกมา ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงความโค้งของกระจกตา
จุดเด่นของวิธีนี้ คือ มีโอกาสเกิดภาวะตาแห้งน้อยกว่าแบบ Femto LASIK แผลที่ได้มีขนาดเล็กมาก สามารถปรับความโค้งของกระจกตาได้โดยไม่ต้องผ่าเปิดฝากระจกตา ความเสี่ยงเรื่องฝากระจกตาเลื่อนลดลง และมีโอกาสเกิดผลข้างเคียงที่น้อยกว่า
ผู้ที่เหมาะสำหรับวิธีการผ่าตัดแบบ Femto LASIK มีดังนี้
ข้อดีของการทำเฟมโตเลสิก มีดังนี้
สำหรับFemto lasik ข้อเสียหรือข้อจำกัดในการทำ Femto LASIK มีดังนี้
ก่อนเข้ารับการรักษาแบบ Femto LASIK จะต้องมีการเตรียมตัว ดังนี้
โดยปกติแล้ว ก่อนเข้ารับการผ่าตัด จะต้องมีการตรวจวิเคราะห์สภาพสายตาของผู้รับบริการ เพื่อนำไปเป็นข้อมูลที่ใช้ในการคำนวณวางแผนเพื่อการรักษาที่เหมาะสมกับแต่ละบุคคล ซึ่งจะมีการตรวจอย่างละเอียด ดังนี้
การใช้คอมพิวเตอร์ตรวจค่าสายตาในเบื้องต้น มีประโยชน์ในแง่ของความสะดวก และรวดเร็ว อีกทั้งยังสามารถคำนวณหาค่าสายตาสั้น สายตายาว สายตาเอียง องศาต่างๆ ความโค้งหรือความหนาของกระจกตาได้ในเบื้องต้น
การประเมินความสามารถในการมองเห็น จะประเมินเพื่อดูว่า ผู้รับบริการสามารถมองเห็นชัดเจนได้ในระดับใด การมองเห็นในระยะใกล้ หรือการมองเห็นในระยะไกลได้แค่ไหน? โดยการให้ผู้รับบริการอ่านแผนภูมิวัดสายตาที่มีตัวเลข หรือตัวอักษรขนาดเล็กลงไปเรื่อยๆในแต่ละแถว ตามเงื่อนไขที่กำหนด
ความดันของลูกตา เป็นอีกหนึ่งสิ่งที่มีความสำคัญไม่แพ้กัน ในการรักษาแบบเลสิคFemto ดังนั้น จึงจะต้องตรวจประเมินให้แน่ใจว่า ระดับความดันภายในลูกตาว่าอยู่ในระดับปกติหรือไม่ ก่อนเข้ารับการผ่าตัด อีกทั้งระดับความดันของลูกตา ยังสามารถบอกได้ถึงแนวโน้มความเสี่ยงที่อาจเกิดโรคที่เกี่ยวข้องกับดวงตาได้อีกด้วย
จักษุแพทย์จะมีการตรวจวัดค่าต่างๆเพิ่มเติม ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของความโค้งกระจกตา การหักเหแสง การตอบสนองต่างๆของดวงตา เป็นต้น
จักษุแพทย์สามารถตรวจประเมินภาวะตาแห้งของผู้รับบริการได้จากการวัดปริมาณน้ำตาที่มีอยู่ โดยการนำกระดาษที่ถูกผลิตขึ้นสำหรับ Schrimer’s Test โดยเฉพาะ วางเข้าไปบริเวณด้านในของหนังตาล่าง เป็นระยะเวลา 5 นาที น้ำตาที่อยู่ภายในจะค่อยๆซึมซับเข้าไปที่กระดาษ เมื่อนำกระดาษออกมาแล้ว จะสามารถวัดระยะน้ำตาเพื่อเทียบกับเกณฑ์ภาวะตาแห้งได้
ในส่วนของกระจกตา จะต้องทำการถ่ายภาพทั้งเรื่องของพื้นผิว ลักษณะรูปร่าง ความโค้ง และความหนาของกระจกตา เพื่อนำภาพถ่ายไปคำนวณและวางแผนการรักษาแต่ละรายบุคคลต่อไป
จักษุแพทย์จะมีการหยอดยาขยายม่านตา เพื่อตรวจสอบแก้วตา น้ำวุ้นตา จอประสาทตา รวมถึงส่วนอื่นๆในดวงตา ว่ามีความผิดปกติใดๆเกิดขึ้นหรือไม่ โดยการตรวจสอบขณะที่รูม่านตากว้างขึ้น จะช่วยให้สามารถวัดค่าสายตาได้อย่างแม่นยำ เนื่องจากลดอาการเพ่งสายตาที่เกิดขึ้นได้
เมื่อผู้รับบริการได้หยอดยาขยายม่านตาแล้ว ขั้นตอนต่อไปคือ การตรวจจอประสาทตา เส้นประสาทตา จุดรับภาพ ความหนาของจอประสาทตา รวมไปจนถึงการตรวจดูสัญญาณความผิดปกติต่างๆที่อาจเกิดขึ้น เพื่อนำข้อมูลมาวิเคราะห์และวางแผนการรักษา
ถึงแม้ว่าคุณจะเข้ารับการผ่าตัดเรียบร้อยแล้ว อีกสิ่งหนึ่งที่มีความสำคัญไม่แพ้กันเลย นั่นก็คือ การดูแลตนเองหลังการผ่าตัด ซึ่งมีข้อปฏิบัติที่ทุกคนควรทราบ ดังนี้
“Femto LASIK ราคาประมาณเท่าไหร่?” ปกติแล้ว ราคาของแต่ละสถานที่จะมีความแตกต่างกันไป โดยที่โรงพยาบาลสมิติเวช ไชน่าทาวน์ของเรา มีค่าใช้จ่ายในการเข้ารับการรักษา ดังนี้
ประเภทเลสิค |
ราคาปกติ |
ช่องทางการผ่อนชำระ |
Femto LASIK |
55,000 |
บัตรเครดิตธนาคารกสิกรไทย ผ่อน 0% นาน 4 เดือน |
บัตรเครดิตธนาคารกรุงเทพ ผ่อน 0% นาน 4 เดือน หรือ 6 เดือน |
||
บัตรเครดิตธนาคารกรุงศรีอยุธยา ผ่อน 0% นาน 10 เดือน |
หมายเหตุ ราคาดังกล่าวสำหรับคนไทยเท่านั้น
“ทำFemto LASIK ที่ไหนดี?” เป็นหนึ่งในคำถามยอดฮิตที่ใครหลายๆคนสงสัย แน่นอนว่า การเลือกสถานที่ที่ดี ย่อมเป็นปัจจัยหนึ่งที่มีผลต่อการรักษาดวงตาของเรา ดังนั้น วิธีเลือกสถานที่ในการทำFemto LASIK ดีๆ มีดังนี้
สถานที่นั้นจะต้องมีความสะอาด ได้รับการรับรองเป็นมาตรฐาน
ทีมแพทย์มีความเชี่ยวชาญเฉพาะทาง และมีประสบการณ์มากเพียงพอในการทำ Femto LASIK
อุปกรณ์ครบครันเพียงพอต่อการรักษา
มีเทคโนโลยีเข้ามาช่วยในการรักษาและบรรเทาความเจ็บปวด
มีการบริการที่ดี บอกรายละเอียดเกี่ยวกับการรักษา ค่าใช้จ่ายต่างๆ และมีระบบบริหารจัดการภายในที่ดี
สถานที่นั้น สามารถเดินทางได้สะดวก ทั้งรถยนต์ส่วนตัว รถไฟฟ้าสายต่างๆ และรถประจำทาง
หากคุณยังไม่มีตัวเลือกดีๆ ที่โรงพยาบาลสมิติเวช ไชน่าทาวน์ เราพร้อมดูแลรักษาคุณโดยทีมจักษุแพทย์ผู้เชี่ยวชาญที่มากประสบการณ์ อุปกรณ์สะอาดครบครันตามมาตรฐาน อีกทั้งยังมีเทคโนโลยีใหม่ๆที่เข้ามาช่วยในการรักษา ให้คุณสามารถเข้ารับการผ่าตัดได้อย่างปลอดภัย ลดความเจ็บปวด และสามารถมั่นใจในการรักษาได้ เหมือนมีคุณหมอเป็นเพื่อนบ้าน
สำหรับผู้ที่เข้ารับการรักษาปัญหาสายตาแบบ Femto LASIK หลังผ่าตัดจะต้องทำการพักฟื้น เป็นระยะเวลา 2 - 3 วัน ซึ่งในเวลานั้น อาจมีความรู้สึกระคายเคืองตา น้ำตาไหลบ่อยได้บ้าง
การทำเลสิคFemto คือ การแก้ไขปัญหาสายตาที่มีอยู่เดิมให้กลับมาชัดเจน แต่ไม่สามารถยับยั้งการเจริญเติบโตของร่างกาย หรือความเสื่อมที่เกิดขึ้นในภายหลังได้ ดังนั้น การทำFemto LASIK สามารถแก้ไขปัญหาสายตาเดิมได้อย่างถาวร แต่ไม่สามารถช่วยป้องกันปัญหาใหม่ที่อาจเกิดขึ้นในอนาคตได้นั่นเอง
ดังที่ได้กล่าวไปข้างต้น การทำ Femto LASIK คือการผ่าตัดแก้ไขปัญหาสายตาโดยใช้แสงเลเซอร์ที่มีชื่อว่า femtosecond laser ซึ่งมีความแม่นยำสูง และมีความรวดเร็วระดับ 500 กิโลเฮิร์ต ทำให้แผลที่ได้มีความเรียบเนียน สามารถสมานตัวได้เร็ว ลดความคลาดเคลื่อนในการแยกชั้นกระจกตา และเกิดผลข้างเคียงน้อย
ผู้ที่สนใจเข้ารับการรักษาด้วยวิธี Femto LASIK กับ โรงพยาบาลสมิติเวช ไชน่าทาวน์ สามารถเข้ารับคำปรึกษา และสอบถามรายละเอียดอื่นๆได้ที่
เราใช้คุกกี้เพื่อเพิ่มประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ แสดงเนื้อหาให้ตรงกับความสนใจ รวมถึงเพื่อวิเคราะห์การเข้าใช้งานเว็บไซต์และทำความเข้าใจว่าผู้ใช้งานมาจากที่ใด คุณสามารถเลือกตั้งค่าความยินยอมการใช้คุกกี้ได้ นโยบายความเป็นส่วนตัว (Privacy Policy)