ขลิบปลายอวัยวะเพศชาย ลดกลิ่น ลดโรค เสริมความมั่นใจ
การขลิบปลายอวัยวะเพศชาย สามารถทำได้ทุกวัย ช่วยให้ทำความสะอาดง่าย ไม่หมักหมมจนเกิดผลเสียต่อสุขภาพ เช่น หนังหุ้มปลายอักเสบ มีกลิ่น ติดเชื้อทางเดินปัสสาวะ
ทุกวันนี้โรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ถือเป็นภัยเงียบที่หลายคนอาจมองข้ามไป หนึ่งในนั้นคือโรคที่เกิดจากเชื้อ HIV ไวรัสตัวร้ายที่คุกคามระบบภูมิคุ้มกันของร่างกาย โดยเมื่อระบบภูมิคุ้มกันอ่อนแอลง ร่างกายของเราก็จะยิ่งรับมือกับเชื้อโรคต่าง ๆ ได้ยากขึ้น โดยหนึ่งในสัญญาณเตือนที่บ่งบอกถึงภาวะภูมิคุ้มกันบกพร่องของผู้ติดเชื้อ HIV นั่นก็คือ ตุ่ม PPE หรือ Pruritic Papular Eruption in HIV
แล้วตุ่มคันเหล่านี้จะมีวิธีสังเกตอย่างไร แตกต่างจากตุ่มคันทั่วไปหรือไม่ แล้วเราจะมีวิธีป้องกันหรือรักษาตุ่มเหล่านี้ได้อย่างไร? ติดตามอ่านต่อทุกข้อมูลน่ารู้เกี่ยวกับอาการตุ่ม PPE และลักษณะต่าง ๆ ได้ในบทความนี้เลย
สารบัญบทความ
ลักษณะของตุ่ม PPE เป็นอาการผื่นที่พบได้บ่อยในคนที่ติดเชื้อ HIV ซึ่งมักเกิดขึ้นในบริเวณใบหน้า แขน หรือขาของผู้ป่วย เรียกได้ว่าเป็นอีกหนึ่งอาการที่ผู้ติดเชื้อ HIV ควรสังเกตและเฝ้าระวัง เนื่องจากมักพบมากขึ้นในระยะโรคที่รุนแรงขึ้น และคนที่มีระดับเซลล์เม็ดเลือดขาว CD4 ต่ำลง โดยลักษณะของตุ่ม PPE อาจทำให้ผู้ป่วยสับสนได้ว่าเป็นอาการอื่น เช่น การอักเสบของผิวหนังหรือการแพ้ยา เพราะมักมีอาการคันคล้าย ๆ กัน
นอกจากนี้ ตุ่มคัน PPE ยังอาจเกิดจากการติดเชื้อไวรัสอื่น ๆ นอกเหนือจากเชื้อ HIV ก็ได้ ดังนั้น การเข้ารับการตรวจเพื่อระบุสาเหตุและการวินิจฉัยที่แม่นยำจึงเป็นสิ่งสำคัญที่ควรทำ โดยผู้ที่มีความเสี่ยงต่อการติดเชื้อ HIV ควรปรึกษาแพทย์หรือรับการตรวจและยาต้าน HIV เพื่อเช็กให้แน่ใจว่าอาการที่พบเป็นตุ่ม PPE จากเชื้อ HIV หรือไม่ เพราะการรับรู้และรักษาโรคตั้งแต่ระยะเริ่มต้นจะช่วยลดความรุนแรงของโรคและเพิ่มโอกาสในการควบคุมอาการให้ดียิ่งขึ้นในระยะต่อไป
ตุ่ม PPE เป็นอาการทางผิวหนังที่พบได้บ่อยในคนที่ติดเชื้อ HIV โดยลักษณะของตุ่ม PPE โดยทั่วไปก็มีดังนี้
สาเหตุที่ทำให้เกิดตุ่ม PPE บนร่างกายนั้นไม่ได้เกิดเพราะเชื้อโรคโดยตรง แต่เป็นเพราะภาวะภูมิคุ้มกันบกพร่องของผู้ที่ติดเชื้อ HIV โดยสามารถแบ่งสาเหตุหลัก ๆ ได้ดังนี้
ถ้ามีตุ่มขึ้นบนร่างกายและสงสัยว่าเป็นตุ่ม PPE หรือไม่ ควรไปพบแพทย์เฉพาะทาง เพื่อทำการตรวจโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์และวินิจฉัย ดังนี้
ภาวะแทรกซ้อนของตุ่ม PPE นั้นอาจเกิดขึ้นได้ในหลายรูปแบบ โดยเฉพาะคนที่มีอาการคันแล้วเกาจนทำให้เกิดรอยดำหรือแผลเป็นตามจุดต่าง ๆ ในร่างกาย โดยการรักษาให้หายขาดอาจจะต้องใช้เวลาและการดูแลพอสมควร นอกจากนี้ การเกาตุ่ม PPE ยังอาจทำให้เกิดการติดเชื้อจากแบคทีเรียซ้ำซ้อน และอาจนำมาซึ่งเชื้อราชนิดต่าง ๆ ได้ด้วย โดยเฉพาะกับส่วนที่อยู่ใต้ร่มผ้า ซึ่งมักมีเชื้อราเจริญเติบโตได้อย่างรวดเร็ว ถ้าไม่ได้รับการรักษาอย่างเหมาะสมหรือทันเวลา ซึ่งถ้าติดเชื้อ HIV ในระดับที่มีตุ่ม PPE แล้วนั้นก็ควรเฝ้าระวังภาวะแทรกซ้อนอื่น ๆ ด้วย เช่น โรคหัวใจ โรคเบาหวาน หรือโรคมะเร็ง เป็นต้น
การรักษาตุ่ม PPE โดยทั่วไปจะเน้นรักษาตามอาการและป้องกันภาวะแทรกซ้อนที่มีความเสี่ยงจะเกิดขึ้น โดยการรักษาเบื้องต้นสำหรับคนที่มีตุ่ม PPE คือ ไม่ควรเกา ดูแลผิวไม่ให้แห้ง และรับประทานยาแก้แพ้และยาแก้คันเพื่อควบคุมอาการ โดยการดูแลด้วยวิธีเหล่านี้จะช่วยลดความรุนแรงของอาการและป้องกันการภาวะแทรกซ้อนได้
และสำหรับการรักษาที่ต้นเหตุ จะเน้นการเพิ่มจำนวนเซลล์ CD4 เป็นหลัก ซึ่งเป็นเซลล์ที่มีส่วนสำคัญในการเสริมสร้างภูมิคุ้มกันของร่างกาย โดยการใช้ยาต้านไวรัสหรือ ARV ซึ่งเป็นยาที่ช่วยลดเชื้อ HIV ยับยั้งการแพร่เชื้อและเพิ่มภูมิคุ้มกันให้มี CD4 เพิ่มขึ้นเกิน 200 เซลล์/ลูกบาศก์เมตร
ตุ่ม PPE อาจสร้างความรำคาญ อาการคัน และอาจนำไปสู่ปัญหาอื่น ๆ ได้อีกมากมาย หลายคนจึงมีคำถามเกี่ยวกับตุ่ม PPE โดยในหัวข้อนี้ เราจะมาตอบคำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับตุ่ม PPE เพื่อหาคำตอบไปพร้อม ๆ กัน
การมีตุ่ม PPE เกิดขึ้นอาจไม่สามารถฟันธงได้ว่าเป็นเพราะเชื้อ HIV หรือเป็นโรคเอดส์เสมอไป โดยเป็นความจริงที่ตุ่ม PPE เป็นอาการทางผิวหนังที่พบได้บ่อยในผู้ที่ติดเชื้อ HIV แต่ตุ่มนี้ไม่ได้เป็นอาการเฉพาะของ HIV แต่สามารถเกิดขึ้นได้จากสาเหตุอื่น ๆ ด้วย เช่น การแพ้ยา แมลงกัดต่อย หรืออาการผิวหนังอักเสบ โดยการตรวจวินิจฉัยว่าติดเชื้อ HIV หรือเป็นโรคเอดส์หรือไม่นั้น แพทย์จะพิจารณาจากหลายปัจจัย เช่น ผลเลือด จำนวนเซลล์ CD4 และอาการอื่น ๆ ร่วมด้วย ดังนั้น การมีตุ่ม PPE เพียงอย่างเดียว จึงไม่สามารถสรุปได้ว่าเป็นเพราะมีเชื้อ HIV ในร่างกาย
การรักษาตุ่ม PPE สามารถดูแลรักษาด้วยตัวเองในเบื้องต้นได้ โดยพยายามไม่แกะ ไม่เกาที่บริเวณตุ่ม และดูแลให้ผิวหนังในบริเวณนั้นให้ชุ่มชื้นแต่ไม่อับชื้นอยู่เสมอ แต่อย่างไรก็ตาม วิธีรักษาที่ดีที่สุดคือการเข้ารับการตรวจวินิจฉัยจากแพทย์ เพื่อเช็กให้แน่ใจว่าเป็นตุ่ม PPE ใช่หรือไม่ แล้วเกิดจากสาเหตุอะไร หรือเป็นเพียงอาการทางผิวหนังแบบอื่น ๆ ที่มีลักษณะใกล้เคียงกัน โดยถ้าแพทย์วินิจฉัยแล้วพบว่าเป็นตุ่ม PPE แพทย์อาจแนะนำให้ใช้ยาแก้แพ้หรือยาแก้คันในการรักษา เพื่อช่วยลดอาการผิวหนังระคายเคือง เช่น ยาทาโครลิมัส ยาสเตียรอยด์ที่มีความเข้มข้นสูง เป็นต้น
ปกติแล้วตุ่ม PPE เป็นอาการที่พบเห็นได้ทั่วไปตามอวัยวะต่าง ๆ ของร่างกาย ทั้งภายในและภายนอกร่มผ้า แต่ส่วนใหญ่แล้วมักจะพบในบริเวณในร่มผ้ามากกว่า ซึ่งเป็นบริเวณที่มีความชุ่มชื้น ไม่โดนแสงแดดและความร้อน ซึ่งเอื้อต่อการเจริญเติบโตของเชื้อโรค โดยบริเวณที่พบตุ่ม PPE ได้ เช่น ผิวด้านข้างของแขนขาส่วนล่าง ช่วงแขนส่วนบน ผิวด้านหลังของฝ่าเท้า หลังมือ ใบหน้า ไปจนถึงส่วนต่าง ๆ ที่มีไรผมและคิ้ว โดยตุ่ม PPE สามารถขึ้นกระจายได้หลายจุดทั่วร่างกาย และมีการเว้นระยะห่างระหว่างแต่ละจุดเท่า ๆ กัน ไม่กระจุกตัวอยู่ที่จุดใดจุดหนึ่ง
ตุ่ม PPE เป็นผื่นคันที่พบได้ในผู้ติดเชื้อ HIV ที่มีภูมิคุ้มกันต่ำ โดยมักเกิดขึ้นบริเวณใบหน้า แขน ขา คอ ศีรษะ ลักษณะเป็นตุ่มนูนแดง มีอาการคัน มักเกิดหลายตุ่ม และกระจายเป็นกลุ่ม โดยการเกิดตุ่ม PPE เป็นหนึ่งในสัญญาณที่บ่งชี้ว่าระบบภูมิคุ้มกันอ่อนแอ และเชื้อ HIV กำลังแพร่กระจาย ดังนั้น หากสงสัยว่าตนเองมีตุ่ม PPE ควรไปพบแพทย์เพื่อรับการวินิจฉัยและรักษาอย่างเร่งด่วน
สำหรับใครที่ต้องการสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับตุ่ม PPE หรือเรื่องสุขภาพอื่น ๆ ตั้งแต่ขั้นตอนการป้องกันอย่างการฉีดวัคซีน HPV ไปจนถึงการรักษาโรคต่าง ๆ สามารถติดต่อได้ที่โรงพยาบาลสมิติเวช ไชน่าทาวน์ ซึ่งมีทีมแพทย์เฉพาะทางและพร้อมให้คำปรึกษาตลอด 24 ชั่วโมง โดยสามารถติดต่อผ่าน Line : @samitivejchinatown หรือโทร 02-118-7893
References
Pruritic Papular Eruption (PPE) of HIV. (2019, January 20). Infectious Disease Advisor. https://www.infectiousdiseaseadvisor.com/home/decision-support-in-medicine/infectious-diseases/pruritic-papular-eruption-ppe-of-hiv/
Tallon, B. (n.d.). Pruritic papular eruption of HIV. Dermnetnz. https://dermnetnz.org/topics/pruritic-papular-eruption-of-hiv
Papular pruritic eruption of HIV. (n.d.). visualdx. https://www.visualdx.com/visualdx/diagnosis/papular+pruritic+eruption+of+hiv?diagnosisId=53746&moduleId=101
เราใช้คุกกี้เพื่อเพิ่มประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ แสดงเนื้อหาให้ตรงกับความสนใจ รวมถึงเพื่อวิเคราะห์การเข้าใช้งานเว็บไซต์และทำความเข้าใจว่าผู้ใช้งานมาจากที่ใด คุณสามารถเลือกตั้งค่าความยินยอมการใช้คุกกี้ได้ นโยบายความเป็นส่วนตัว (Privacy Policy)