บทความสุขภาพ

ฉีดวัคซีน COVID-19 ต้องเตรียมตัวอย่างไร

บทความโดย: วันที่อัพเดท: 26 มีนาคม 2567
จากสถานการณ์การระบาดของ COVID-19 ในปัจจุบัน นอกจากเราจะสวมหน้ากาก หมั่นล้างมือด้วยแอลกอฮอล์เวลาออกไปนอกบ้านแล้ว การฉีดวัคซีนโควิด-19 ช่วยสร้างภูมิคุ้มกันโรคโควิด-19 ได้อย่างมีประสิทธิภาพ แต่จะต้องทำควบคู่ไปกับการสวมหน้ากาก ล้างมือบ่อยๆ เว้นระยะห่าง และหลีกเลี่ยงพื้นที่แออัด ซึ่งการเรามีการเตรียมตัวสำหรับการฉีดวัคซีน ดังนี้
 

วิธีการเตรียมตัวก่อนฉีดวัคซีน COVID-19



1. ผู้ที่มีโรคประจำตัว หรือมียาประจำที่ต้องรับประทานทุกวัน ควรปรึกษาแพทย์ประจำตัวก่อน
2. ก่อนเข้ารับการฉีดวัคซีน 2 วัน ควรงดการออกกำลังกายหนักๆ และพักผ่อนให้เพียงพอ
3. หากมีอาการป่วย มีไข้ ไม่สบาย ให้เลื่อนการฉีดวัคซีนออกไปก่อน ประมาณ 1-2 สัปดาห์ หรือจนกว่าจะหายดี
4. ก่อนฉีดวัคซีนควรดื่มน้ำเปล่าเยอะๆ และงดเครื่องดื่มที่มีคาเฟอีน เช่น ชา กาแฟ น้ำอัดลม และเครื่องดื่มแอลกอฮอล์
5. รับประทานอาหาร และยารักษาโรคประจำตัวให้เรียบร้อย ก่อนเข้ารับการฉีดวัคซีน ยกเว้นแพทย์งดสั่ง


คำแนะนำการฉีดวัคซีนสำหรับผู้มีโรึประจำตัว

โรคประจำตัว คำแนะนำ
โรคหัวใจและหลอดเลือด สามารถฉีดได้ ยกเว้นเพิ่งมีอาการ หรือ อาการของโรคหัวใจยังไม่คงที่ หรือมีอาการอื่นๆ ที่อาจเป็นอันตราย ซึ่งแพทย์ประจำตัวพิจารณาแล้วว่ายังไม่ควรฉีดวัคซีน
โรคไตเรื้อรัง ได้รับการบำบัดทดแทนไต
ฟอกไตเทียม
สามารถฉีดได้ ยกเว้นเพิ่งมีอาการหรืออาการของโรคยังไม่คงที่ หรือมีอาการอื่นๆ ที่อาจเป็นอันตราย ซึ่งแพทย์ประจำตัวพิจารณาแล้วว่ายังไม่ควรฉีดวัคซีน
ผู้ป่วยที่ได้รับการผ่าตัดปลูกถ่ายอวัยวะ แนะนำรับวัคซีนหลังผ่าตัด 1 เดือน ต้องมีอาการคงที่และได้รับความเห็นชอบจากแพทย์แล้ว
โรคปอดอุดกั้นเรื้อรัง โรคหอบหืด สามารถฉีดได้ ยกเว้นเพิ่งมีอาการ หรือ อาการของโรคยังไม่คงที่ แนะนำควรรอหลังหายจากอาการ 2-4 สัปดาห์
โรคมะเร็ง สามารถฉีดได้ ยกเว้น
- ผู้ที่กำลังรับยาเคมีบำบัด หรือกำลังจะเข้ารับการผ่าตัดโรคมะเร็ง ควรปรึกษาแพทย์ก่อนฉีด
- คนไข้โรคมะเร็งระบบเลือด ที่ได้รับการปลูกถ่ายไขกระดูก ควรฉีดวัคซีนหลังการรักษาครบ 3 เดือนไปแล้ว
โรคเบาหวานและโรคอ้วน
(น้ำหนักเกิน 100 กิโลกรัม หรือดัชนีมวลกาย
มากกว่า 35 กิโลกรัมต่อตารางเมตร)
สามารถฉีดได้ ยกเว้นเพิ่งมีอาการหรืออาการของโรคยังไม่คงที่
โรคเอดส์ สามารถฉีดได้ ยกเว้นเพิ่งมีอาการของโรคติดเชื้อฉวยโอกาสซึ่งควรรักษาให้อาการคงที่ก่อน
โรคไขข้ออักเสบและโรคแพ้ภูมิตัวเอง สามารถฉีดได้ ยกเว้นเพิ่งมีอาการหรืออาการของโรคยังไม่คงที่
โรคระบบประสาทภูมิคุ้มกัน
เช่น Autoimmune encephalitis,
Multiple sclerosis, Neuromyeliti optica, Myelitis, Acute polyneuropathy, Guillain-Barre Syndrome, Chronic polyneuropathy, Myositis, Bell’s palsy, Cranial neuritis
สามารถฉีดได้ ยกเว้นเพิ่งมีอาการหรืออาการของโรคยังไม่คงที่ ควรจะรออย่างน้อย 4 สัปดาห์จนกว่าอาการจะคงที่
โรคหลอดเลือดสมอง สามารถฉีดได้ ยกเว้นผู้ที่อาการยังไม่คงที่ หรือมีอาการอื่นๆที่อาจเป็นอันตราย ซึ่งแพทย์ประจำตัวพิจารณาแล้วว่ายังไม่ควรฉีด
โรคลมชัก สามารถฉีดได้ ไม่มีข้อห้าม
โรคทางระบบประสาทอื่นๆ
เช่น โรคพาร์กินสัน โรคสมองเสื่อม โรคเซลล์
ประสาทสั่งการเสื่อมตัว โรคเส้นประสาทและ
กล้ามเนื้อที่เกิดจากพันธุกรรมหรือการเสื่อม
สามารถฉีดได้ ไม่มีข้อห้าม


คำแนะนำการฉีดวัคซีนสำหรับผู้กำลังใช้ยารักษาโรค

ยาโรคประจำตัวที่ควรเฝ้าระวัง คำแนะนำ
ยาสเตียรอยด์
(Prednisolone 20 มิลลิกรัม เทียบเท่า Dexamethasone 3 มิลลิกรัม และ Methylprednisolone 16 มิลลิกรัม
Prednisolone ขนาดน้อยกว่า 20 มิลลิกรัมต่อวัน หรือ สเตียรอยด์อื่นที่เทียบเท่า สามารถฉีดได้โดยไม่ต้องหยุดยา
แต่ถ้ามากกว่า 20 มิลลิกรัมต่อวัน หรืออยู่ในช่วงกำลังลดปริมาณยาลง ผู้ป่วยต้องมีอาการคงที่ ถึงสามารถฉีดวัคซีนได้
ยากดภูมิคุ้มกัน เช่น Azathioprine, IVIG, Cyclophosphamide ชนิดกิน สามารถฉีดได้โดยไม่ต้องหยุดยา
Cyclophosphamide ชนิดฉีดเข้าเส้นเลือด สามารถฉีดวัคซีนได้ หากอาการคงที่ โดยแนะนำให้หยุดยา 1 สัปดาห์ หลังการฉีดวัคซีน
Mycophenolate สามารถฉีดวัคซีนได้ หากอาการคงที่ โดยแนะนำให้หยุดยา Mycophenolate 1 สัปดาห์ หลังการฉีดวัคซีน
Methotrexate สามารถฉีดวัคซีนได้ หากอาการคงที่ โดยแนะนำให้หยุดยา Methotrexate 1 สัปดาห์ หลังการฉีดวัคซีน
Hydroxychloroquine, Sulfasalazine, Leflunomide ไม่ต้องปรับเปลี่ยนการรับยาหรือเลื่อนการฉีดวัคซีน
ยาต้านการแข็งตัวของเลือด Warfarin สามารถฉีดได้ ในผู้ป่วยที่มีค่า INR น้อยกว่า 4 โดยใช้เข็มขนาด 25G หรือ 27G และไม่คลึงกล้ามเนื้อหลังฉีดวัคซีน หลังฉีดเสร็จควรกดตรงที่ฉีดอย่างน้อย 2-5 นาทีจนแน่ใจว่าไม่มีเลือดออก
ยาป้องกันภาวะลิ่มเลือดอุดตัน เช่น Fondaparinux สามารถฉีดวัคซีนได้ โดยฉีดก่อนยาชนิดนี้
ยาต้านการแข็งตัวของเลือดกลุ่มใหม่หรือ NOAC (Non-Vitamin K Antagonist Oral Anticoagulants) เช่น Dabigatran ,Rivaroxaban, Apixaban และ Edoxaban สามารถฉีดวัคซีนได้ แต่ควรใช้เข็ม 25G หรือเล็กกว่าและไม่คลึงกล้ามเนื้อหลังฉีดวัคซีน หลังฉีดเสร็จควรกดตรงที่ฉีดอย่างน้อย 2-5 นาทีจนแน่ใจว่าไม่มีเลือดออก
ยาต้านเกล็ดเลือด เช่น Aspirin, Clopidogrel, Colostazol, Ticagrelor หรือ prasugrel สามารถฉีดวัคซีนได้ แต่ควรใช้เข็ม 25G หรือเล็กกว่าและไม่คลึงกล้ามเนื้อหลังฉีดวัคซีน หลังฉีดเสร็จควรกดตรงที่ฉีดอย่างน้อย 2-5 นาทีจนแน่ใจว่าไม่มีเลือดออก
ยาแอนติบอดี (ยาที่ลงท้ายด้วย -mab) ยา Rituximab : แนะนำฉีดวัคซีน ก่อนเริ่มยาครั้งแรก 14 วัน หรือหลังรับยาไปแล้ว 1 เดือน
ยา Omalizumab, Benralizumab, Dupilumab แนะนำฉีดวัคซีนก่อนหรือหลังรับยา 7 วัน


ขั้นตอน ณ วันฉีดวัคซีน COVID-19



1. ลงทะเบียน ซักประวัติเพื่อประเมินความเสี่ยง ลงนามเอกสารยินยอมการฉีดวัคซีน จากนั้นวัดไข้ วัดความดัน และชีพจร
2. เข้ารับการฉีดวัคซีน โดยแนะนำให้ใช้ข้างที่ไม่ถนัดฉีด
3. รอสังเกตอาการหลังฉีด 30 นาที หากไม่พบความผิดปกติ รับบัตรนัดสำหรับการฉีดวัคซีนครั้งถัดไป

 

ข้อควรระวังหลังฉีดวัคซีน COVID-19



1. หลังฉีดอาจมีไข้ ปวด บวม แดง ร้อนบริเวณที่ฉีดวัคซีน หรือมีอาการอ่อนเพลีย ปวดศีรษะ/กล้ามเนื้อ 1-2 วัน
2. หากมีไข้ ปวดศีรษะ แนะนำให้กินยาลดไข้ แก้ปวด
3. หากมีอาการผิดปกติ เช่น มีไข้สูงมาก เป็นผื่น หน้ามืด เป็นลม แขนขาอ่อนแรง เจ็บหน้าอก แนะนำรีบพบแพทย์
บทความและสุขภาพอื่นที่น่าสนใจ
pdpa-icon

เราใช้คุกกี้เพื่อเพิ่มประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ แสดงเนื้อหาให้ตรงกับความสนใจ รวมถึงเพื่อวิเคราะห์การเข้าใช้งานเว็บไซต์และทำความเข้าใจว่าผู้ใช้งานมาจากที่ใด คุณสามารถเลือกตั้งค่าความยินยอมการใช้คุกกี้ได้ นโยบายความเป็นส่วนตัว​ (Privacy Policy)​