บทความสุขภาพ

ลำไส้แปรปรวน ชีวิตปรวนแปร

บทความโดย: วันที่อัพเดท: 26 มีนาคม 2567

หลายคนอาจไม่เคยได้ยินโรคลำไส้แปรปรวน (Irritable Bowel Syndrome - IBS) กันใช่ไหมคะ แต่โรคนี้พบในประเทศไทยถึงราวร้อยละ 15 ของประชากร โรคลำไส้แปรปรวนมักมีอาการปวดบีบเกร็งบริเวณท้องน้อยด้านล่าง ร่วมกับการขับถ่ายผิดปกติ โดยอาจมีอาการท้องผูก ท้องเสีย หรือสลับกันทั้งสองอย่างก็ได้ ซึ่งอาการจะดีขึ้นหลังจากได้ถ่ายอุจจาระหากบางรายมีอาการผิดปกติอย่างเช่น น้ำหนักลด ถ่ายเป็นเลือด ถ่ายดำ อาเจียนเป็นเลือด มีไข้ หรือคลำได้ก้อนร่วมด้วย ควรรีบพบแพทย์เพื่อทำการรักษา

แม้โรคนี้จะเป็นโรคที่ไม่กลายเป็นมะเร็งลำไส้ และไม่ทำให้เกิดอันตรายถึงชีวิต แต่ก็ถือว่าเป็นโรคเรื้อรัง อาจมีอาการเป็นๆ หายๆ นานเป็นปีหรือตลอดชีวิต สร้างความรำคาญและวิตกกังวลให้ผู้ป่วย จนรบกวนต่อชีวิตประจำวันและการทำงานได้

สาเหตุ

ปัจจุบันยังไม่พบสาเหตุที่แน่นอนของโรคลำไส้แปรปรวน แต่เชื่อว่าเกิดจากหลายปัจจัยร่วมกัน ได้แก่
 
  • การบีบตัวของลำไส้ผิดปกติ อาจเพิ่มขึ้นหรือลดลงกว่าปกติ และมักตอบสนองไวต่อความเครียด
  • การรับรู้ของระบบทางเดินอาหารไวต่อสิ่งกระตุ้นมากกว่าปกติ โดยตัวกระตุ้นที่พบได้บ่อย คือ อาหาร ความเครียด และการเปลี่ยนแปลงทางอารมณ์ ซึ่งทำให้การบีบตัวของลำไส้เปลี่ยนแปลงไป
  • ภาวะหลังการติดเชื้อ ผู้ป่วยบางกลุ่มที่มีอาการลำไส้แปรปรวนตามหลังการติดเชื้อทางเดินอาหาร ซึ่งเชื่อว่าน่าจะเกิดจากการติดเชื้อทำลายเยื่อบุลำไส้ ส่งผลให้เส้นประสาทที่ลำไส้เกิดความไวต่อสิ่งกระตุ้น
  • ภาวะจิตใจ ผู้ป่วยโรคลำไส้แปรปรวนบางรายมีภาวะวิตกกังวลหรือโรคซึมเศร้า
การรักษา

เนื่องจากยังไม่ทราบสาเหตุของโรคชัดเจน การรักษาจึงเป็นไปตามอาการของผู้ป่วยเป็นหลัก ดังนี้
 
  • อาหาร สำหรับผู้ป่วยกลุ่มที่มีอาการหลังจากรับประทานอาหารบางอย่างเป็นตัวกระตุ้น แนะนำให้ทำไดอารี่ของอาการ จดบันทึกว่ารับประทานอาหารอะไรแล้วเกิดอาการอย่างไร วิธีนี้จะช่วยให้ทราบถึงชนิดของอาหารที่เป็นตัวกระตุ้นอาการได้ เพื่อหลีกเลี่ยงอาหารกลุ่มดังกล่าว ซึ่งอาหารที่พบว่าทำให้เกิดอาการบ่อยได้แก่ อาหารรสจัดและมีไขมันสูง ของหมักดอง กาแฟ น้ำอัดลม และแอลกอฮอล์ นอกจากนี้ยังไม่ควรรับประทานอาหารจนอิ่มเกินไป โดยแบ่งรับประทานทีละน้อยแต่บ่อยขึ้น
  • ยา ส่วนใหญ่เป็นยารักษาตามอาการ เช่น ยาระบายสำหรับกรณีท้องผูก หากท้องเสียให้ใช้ยาลดการถ่าย อาการปวดท้องก็เป็นยาลดการบีบเกร็งลำไส้ ส่วนอาการแน่นท้องให้ยาขับแก๊ส รวมถึงมีการให้ยากลุ่มยาปฏิชีวนะหรือโปรไบโอติกส์ (Probiotics) ซึ่งเป็นแบคทีเรียที่ดีเพื่อปรับสมดุลแบคทีเรียในร่างกาย
  • สภาวะจิตใจ เนื่องจากความเครียดมีผลต่อโรคลำไส้แปรปรวน ผู้ป่วยจึงควรผ่อนคลายความเครียด ทำใจให้สบาย บางครั้งการใช้ยารักษาโรคซึมเศร้าก็สามารถช่วยได้เช่นกัน

เนื่องจากโรคลำไส้แปรปรวนเป็นโรคเรื้อรังและมีแนวโน้มจะกลับมาเป็นอีกหลังอาการดีขึ้นแล้ว หากไม่อยากให้ชีวิตปรวนแปรน่ารำคาญ ผู้ป่วยควรปรับการดำเนินชีวิตและการปฏิบัติตนตามแพทย์แนะนำ นอกจากจะทำให้อาการลดลงแล้ว ยังช่วยป้องกันไม่ให้เกิดอาการเดิมซ้ำๆ ได้อีกด้วย
 

พญ. ศศิณี ทองประเสริฐ 
สาขาอายุรศาสตร์
บทความและสุขภาพอื่นที่น่าสนใจ
pdpa-icon

เราใช้คุกกี้เพื่อเพิ่มประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ แสดงเนื้อหาให้ตรงกับความสนใจ รวมถึงเพื่อวิเคราะห์การเข้าใช้งานเว็บไซต์และทำความเข้าใจว่าผู้ใช้งานมาจากที่ใด คุณสามารถเลือกตั้งค่าความยินยอมการใช้คุกกี้ได้ นโยบายความเป็นส่วนตัว​ (Privacy Policy)​